"กัญชาเสรี" ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะอะไร อันตรายอย่างไร ต้องแก้ไขยังไง อ่านเลย

19 มิ.ย. 2565 | 16:44 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2565 | 23:44 น.
11.3 k

"กัญชาเสรี" ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะอะไร อันตรายอย่างไร ต้องแก้ไขยังไง อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ อนุสรณ์ชี้บังคับใช้กฎหมายไม่ดี ควบคุมไม่ดี จะนำมาสู่ผลเสียทางเศรษฐกิจ

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ แสดงความเห็นถึง นโยบายกัญชาเสรี ว่า แม้นโยบายกัญชาเสรีจะเปิดโอกาสให้มีการใช้สารสกัดจากกัญชาในทางการแพทย์และเพื่อความจำเป็นทางสุขภาพได้ง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตและการรักษาผู้เจ็บป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดจากกัญชา แต่หากต้องการให้สามารถใช้กัญชาในการผสมอาหาร เครื่องดื่ม และ ใช้เสพเพื่อสันทนาการแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาผลดีผลเสียอย่างละเอียดรอบคอบ

 

มีการคาดการณ์ว่า ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลก อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.9-2.1 ล้านล้านบาท ภายในปี ค.ศ. 2025 การทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายว่า เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรช่วยกำหนดแนวทางที่เหมาะสมว่า อะไรคือประโยชน์สูงสุดต่อสังคม คุณภาพชีวิตของผู้คน และเศรษฐกิจ

 

กรณีรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตเสพกัญชาเพื่อความบันเทิงหรือสันทนาการ มีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมกัญชาในสหรัฐฯ มากถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2018 และอุตสาหกรรมนี้อาจเติบโตถึง 3 เท่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 

อย่างไรก็ตาม มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมติดตามมามากเช่นเดียวกันหลังจากให้ใช้ กัญชาเพื่อสันทนาการได้อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฎหมายจะสร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้ 4,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา 

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ แสดงความเห็นถึง นโยบายกัญชาเสรี ว่า แม้นโยบายกัญชาเสรีจะเปิดโอกาสให้มีการใช้สารสกัดจากกัญชาในทางการแพทย์และเพื่อความจำเป็นทางสุขภาพได้ง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตและการรักษาผู้เจ็บป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดจากกัญชา แต่หากต้องการให้สามารถใช้กัญชาในการผสมอาหาร เครื่องดื่ม และ ใช้เสพเพื่อสันทนาการแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาผลดีผลเสียอย่างละเอียดรอบคอบ

 

มีการคาดการณ์ว่า ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลก อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.9-2.1 ล้านล้านบาท ภายในปี ค.ศ. 2025 การทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายว่า เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรช่วยกำหนดแนวทางที่เหมาะสมว่า อะไรคือประโยชน์สูงสุดต่อสังคม คุณภาพชีวิตของผู้คน และเศรษฐกิจ กรณีรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตเสพกัญชาเพื่อความบันเทิงหรือสันทนาการ มีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมกัญชาในสหรัฐฯ มากถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2018 และอุตสาหกรรมนี้อาจเติบโตถึง 3 เท่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 

"กัญชาเสรี" ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะอะไร อันตรายอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมติดตามมามากเช่นเดียวกันหลังจากให้ใช้ “กัญชาเพื่อสันทนาการ” ได้ อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฎหมายจะสร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้ 4,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา 

สำหรับกรณีของประเทศไทย เนื่องจากประเทศเรามีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย หากการบังคับใช้กฎหมายไม่ดี การกำกับควบคุมไม่ดี อาจนำมาสู่ผลเสียหายทางเศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพมากกว่าผลดี

 

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและมูลค่าทางเศรษฐกิจ เมื่อทำให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจทั้งทางด้านการค้าและการผลิตอาจมีมูลค่าเบื้องต้นในไทยอยู่ในระดับหมื่นล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจดังกล่าว อาจไม่คุ้มค่ากับ ความเสียหายทางด้านสุขภาพ ค่าใช้จ่ายทางด้านรักษาพยาบาล การถดถอยลงของผลิตภาพการผลิตของแรงงาน

 

และปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมอื่นๆที่จะติดตามจากการปล่อยให้ มีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม หรือ เสพเพื่อสันทนาการ การศึกษาวิจัยผลกระทบจากนโยบายกัญชาเสรียังมีอยู่ไม่มาก แต่งานวิจัยเท่าที่มีอยู่ในประเทศที่มีนโยบายกัญชาเสรีและเปิดให้มีการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการและเพื่อการบริโภคบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าได้ไม่คุ้มเสียหากมีระบบการกำกับควบคุมการใช้ไม่ดีพอ 

 

"กัญชาเสรี" ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะอะไร อันตรายอย่างไร

 

ประเทศส่วนใหญ่จึงไม่มีนโยบายกัญชาเสรี และหากจะเปิดเสรีก็จะจำกัดให้ใช้ในทางการแพทย์และประโยชน์ทางด้านสุขภาพเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อสันทนาการ ไม่ใช่เพื่อนำไปผสมในเครื่องดื่มหรืออาหาร ซึ่งก่อให้เกิดการเสพติดและเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว หลายประเทศหรือหลายสังคม ก็ไม่สนับสนุนนโยบายนี้ด้วยเหตุผลทางศาสนาและเหตุผลทางด้านศีลธรรมจรรยา

 

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า หากต้องการเดินหน้านโยบาย กัญชาเสรี ต่อไปต้องมีระบบ กลไก มาตรการและแนวทางในการควบคุมกัญชา ซึ่งถือเป็นสินค้าบริการที่เป็นภัยต่อสุขภาพและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว การที่ กระทรวงสาธารณสุขมีการประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ก็เป็นเรื่องที่ควรกระทำอย่างยิ่ง

สินค้าบริการที่เป็นภัยต่อสุขภาพ (Hazardous Commodities) อันได้แก่ ฝิ่น (เคยถูกกฎหมาย) กัญชา ยาสูบ (บุหรี่) สุรา และสารเสพติดทั้งหลาย นักเศรษฐศาสตร์สุขภาพพิจารณาว่า สินค้าที่เป็นภัยต่อสุขภาพเหล่านี้ เป็นสินค้าที่หากมีการซื้อขายในตลาดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหรือความตายในอนาคต รวมทั้งความเสี่ยงในด้านอื่นๆ ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาเด็กและเยาวชน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาผลิตภาพแรงงานลดลง เป็นต้น 

 

สินค้าที่เป็นภัยต่อสุขภาพนี้ มักมีลักษณะดังนี้ 

 

  • เป็นสินค้าที่มีขายในท้องตลาด แต่มีการจำกัดอายุและการเข้าถึงเพื่อเสพหรือบริโภค สังคมหรือประเทศไหนที่มีการบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานแบบหละหลวมและมีการทุจริตติดสินบนง่าย สังคมนั้นไม่ควรให้เปิดให้มีการซื้อขายในท้องตลาดทั่วไป 

 

  • ผลการบริโภคหรือเสพสินค้าอาจไม่เกิดผลต่อสุขภาพหรือชีวิตในทันทีทันใดก็ได้ ตลอดจนอาจมีความไม่แน่นอนของผลที่เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้เสพหรือบริโภค ทำให้รัฐเข้าควบคุมยาก แต่มีงานวิจัยชี้ชัดว่า กัญชา ยาสูบ สุรา มีผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็กและเยาวชนอย่างมากและมีผลระยะยาว ทำให้ คุณภาพโดยเฉลี่ยของประชากรด้อยลง กรณีนี้รัฐสามารถใช้ผลงานวิจัยไปเป็นหลักฐานสนับสนุนการควบคุมและแทรกแซงตลาดสินค้าเหล่านี้อย่างเข้มงวด แต่ปัญหาจะอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย

 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สินค้าที่เป็นภัยต่อสุขภาพ เช่น ยาสูบและบุหรี่ ก่อให้เกิดมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดตีบ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ขณะที่ สุรา ก่อให้เกิดโรคตับแข็ง โรคความดันโลหิตสูง และ เป็นตัวกระตุ้นในให้เกิดโรคอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ความรุนแรงและอาชญากรรม 

 

"กัญชาเสรี" ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะอะไร อันตรายอย่างไร

 

ส่วนกรณีของกัญชา หรือ สารสกัดจากกัญชา ภาวะพิษจากกัญชานั้นเกิดขึ้นได้สองรูปแบบ คือ ภาวะพิษเฉียบพลัน หากได้รับสารพิษเกินขนาดอาจถึงเสียชีวิตได้ ขณะนี้ยังไม่มียาต้านพิษจำเพาะ ภาวะพิษเรื้อรังมักมีการเสพกัญชาเป็นยาเสพติด ส่วนใหญ่เป็นผลเสียหายต่อระบบสมองและจิตประสาทเป็นส่วนใหญ่ การสูบกัญชาร่วมกับบุหรี่ไฟฟ้า ทำปอดอักเสบเฉียบพลันและมีอันตรายมากถึงเสียชีวิตได้ 

 

การใช้และเกิดผลในระยะยาวนั้น ยังไม่มีการทำวิจัยหรือเก็บข้อมูลมากเหมือนกรณียาสูบหรือบุหรี่ เพื่อป้องกันผลกระทบทางลบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยสุขภาพของเด็กและเยาวชน ผลกระทบเสียหายทางเศรษฐกิจและความถดถอยของผลิตภาพแรงงาน รัฐบาลต้องมีแนวทางหรือมาตรการเพื่อกำกับควบคุมการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น 

 

หากต้องการเปิดให้มีการเสพหรือบริโภค ต้องมีมาตรการหรือแนวทางดังนี้ 

  • ต้องเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราสูง และนำเงินบางส่วนไปใช้ในการส่งเสริมสุขภาพประชาชน และ เผยแพร่ให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ประโยชน์จากสารสกัดจากกัญชา 

 

  • ต้องมีการกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อหรือเสพกัญชา อย่างต่ำต้องอายุ 25 ปีขึ้นไป 

 

  • ห้ามไม่ให้มีการโฆษณาใดๆ รวมทั้ง โฆษณาแฝง ในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสารสกัดจากกัญชาที่มีผลเสียต่อสุขภาพ 

 

  • การกำหนดให้มีคำเตือนถึงภัยและผลกระทบจากเสพสารสกัดจากกัญชา เผยแพร่ข้อมูลประโยชน์และโทษของกัญชา 

 

  • การบังคับให้ผู้ประกอบการหรือผู้ขายต้องเปิดเผยส่วนผสมของกัญชาในอาหาร หรือ เครื่องดื่ม อย่างชัดเจน 

 

  • กำหนดพื้นที่และเวลาสำหรับเป็นเขตปลอดกัญชา 

 

  • จำกัดการนำเข้าและส่งออกกัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชา ยกเว้นการใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการผลิตยารักษาโรคเท่านั้น

 

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า นักเศรษฐศาสตร์สุขภาพได้ประเมินผลของการควบคุมต่างๆต่อสินค้าบุหรี่ สุรา กัญชา ที่มีต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคหรือเสพสิ่งเหล่านี้ ด้วยการประเมินออกเป็นสองส่วนสำคัญ 

 

ส่วนแรก คือ การศึกษาผลของการควบคุมที่มีต่อการบริโภค ใช้การวิเคราะห์อุปสงค์โดยเฉพาะค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา ต่อระดับรายได้ 

 

ส่วนที่สอง การศึกษาถึง ความสัมพันธ์ระหว่างการลดลงการบริโภคกับการลดลงของการเจ็บป่วยหรือ ศึกษาความสัมพันธ์ที่มีต่อสุขภาพและความยืนยาวของชีวิต 

 

กรณีกัญชานั้น งานวิจัยล่าสุดจะศึกษาถึง ผลของเปิดกัญชาเสรีต่อผลิตภาพแรงงาน ค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพ ผลประโยชน์และความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น

 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ยาสูบเป็นสาเหตุของการตายด้วยโรคมะเร็งปอด โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจปีละ 4-5 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่สุราเป็นต้นเหตุของการตายด้วยโรคมะเร็งตับ โรคตับแข็ง โรคอุบัติเหตุทางจราจรปีละ 2-3 ล้านคน

 

ส่วนกัญชาซึ่งเป็นสินค้าผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ การเสพจึงเป็นเรื่องพฤติกรรมหลบเลี่ยงกฎหมาย จึงไม่มีเก็บสถิติข้อมูลเอาไว้ ส่วนประเทศที่ประกาศให้ กัญชา เป็นสินค้าถูกกฎหมายภายใต้การควบคุม ผู้ที่เสียชีวิตจากโรคอันเป็นผลจากการเสพกัญชาเกินขนาดยังไม่มากในปัจจุบัน 

 

แต่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นมากในอนาคตโดยเฉพาะผลต่อพัฒนาการทางสมอง ความผิดปรกติทางจิตของคนรุ่นต่อไป ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกามีมลรัฐที่มีเปิดเสรีกัญชาเพียง 19 รัฐเท่านั้น มีบางประเทศบางเมืองในละตินอเมริกาและยุโรปเปิดให้มีการเสพกัญชาเพื่อสันทนาการหรือใช้ในเครื่องดื่มและอาหาร และ กรณีของสหรัฐอเมริกายังเป็นนโยบายที่มีความเห็นต่างค่อนข้างมากในกลุ่มผู้กำหนดนโยบายทั้งพรรครีพับรีกัน และ พรรคแดโมแครต รวมทั้งเป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้ง

 

จากงานวิจัยพบว่า หลังการเปิดเสรีกัญชาในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา มุมมองต่ออันตรายของกัญชาเปลี่ยนแปลงไป คือเห็นว่า กัญชาไม่มีอันตรายและสังคมยอมรับมากขึ้น จึงมีเด็กและเยาวชนมากกว่า 37% เคยทดลองสูญกัญชา และ 22% ยังคงสูญอยู่ ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและพัฒนาของสมองและระบบประสาท

 

นอกจากนี้ มีความสัมพันธ์ชัดเจนมากขึ้นระหว่าง ปัญหาสังคม อาชญากรรม การเกิดอุบัติเหตุ กับ การเสพกัญชา ส่วนผลต่อการลดลงของผลิตภาพแรงงานนั้นมีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุของแรงงาน คือ แรงงานหนุ่มสาว ผลิตภาพลดลงอย่างชัดเจน แรงงานสูงวัย ผลที่มีต่อผลิตภาพยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน การใช้กัญชายังส่งผลต่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและสังคมลดลงเช่นเดียวกับการบริโภคสุรา 

 

ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาความเจ็บปวดเรื้อรังลดลงในมลรัฐที่เปิดเสรีกัญชา เพราะประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาความเจ็บป่วยเรื้อรังดัวยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยใบสั่งยา แต่ความรู้และการใช้สารสกัดจากกัญชาอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ งานวิจัย The Effect of Medical Marijuanna Laws on Marijuana, Alcohol, and Hard Drug Use (NBER Working Paper No. 20085), Hefei Wen, Jason M. Hockenberry, and Janet R. Commings. บ่งชี้ชัดเจนว่า การทำให้ กัญชา และ สารสกัดจากกัญชา ถูกกฎหมาย นั้น ทำให้มีการใช้อย่างไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถบ่งชี้ว่า ทำให้มีการใช้ สารเสพติดประเภทอื่นๆ เช่น ฝิ่น โคเคน เฮโรอิน เพิ่มขึ้นหรือไม่