นายกฯเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ยืนยันให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้อง

01 พ.ค. 2565 | 14:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ค. 2565 | 21:37 น.

นายกฯเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำรัฐบาลตระหนักถึงบทบาทพี่น้องผู้ใช้แรงงานเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ยืนยันให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้อง มอบ รง.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการให้แรงงานทุกกลุ่มได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมายสอดคล้องกับสิทธิมนุษยชน

วันที่ 1 พ.ค.65  นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (1 พ.ค. 65) เวลา 11.10 น. ณ ห้องประชุมชั้น 5 (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) กระทรวงแรงงาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2565 

 

นายกฯเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ยืนยันให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้อง

 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคน ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด อีกทั้งยังตระหนักถึงสิทธิ ความเสมอภาค สวัสดิการ และความปลอดภัยในอาชีพของผู้ใช้แรงงานทุกคน โดยพร้อมรับฟังความต้องการของผู้ใช้แรงงานเพื่อนำไปประกอบการพัฒนาความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานทุกคนให้มีความมั่นคงและปลอดภัยด้านอาชีพและการดำรงชีวิต ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา

ที่ผ่านมารัฐบาลมีความมุ่งมั่นผลักดันให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในทุกมิติอย่างเต็มรูปแบบในเวทีการค้าโลก ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ดังนั้น การพัฒนาแรงงานเพื่อให้ทุกคนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องดำเนินการไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ เช่น การเกิดโรคอุบัติใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ทำให้การดำเนินชีวิตและการทำงานเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องหาแนวทางทำให้ประเทศไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น มีการพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านต่างๆ พร้อมกับยกระดับฝีมือแรงงาน ให้สอดคล้องต่อความต้องการของตลาดแรงงาน สามารถรองรับการทำงานในระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ โดยเฉพาะภาคการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ที่ประเทศไทยสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอย่างยั่งยืน และการพัฒนาศักยภาพของพี่น้องแรงงาน

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานต่างชาติอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งเร่งพัฒนาและส่งเสริมการคุ้มครองแรงงาน ระบบสวัสดิการ มาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ควบคู่กับการสนับสนุนหลักประกันสังคมที่จำเป็นต่อสภาวะสังคม ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคมให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อผู้ใช้แรงงาน ที่ได้เสียละทุ่มเท กำลังกาย กำลังความคิด เพื่อพัฒนาและร่วมขับเคลื่อนประเทศในทุกด้านผ่านโครงการสำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น การช่วยเหลือเยียวยาลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับนายจ้างผู้ประกันตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการให้บริการทางการแพทย์รักษาโควิด-19 แก่ผู้ประกันตน โครงการ Factory Sandbox โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ถึงมีนาคม 2565 เป็นต้น
 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นยกระดับการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งประเมินโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งผลักดันการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งแรงงานกลุ่มเปราะบาง แรงงานสูงอายุและคนพิการ เพื่อสร้างความเท่าเทียมเป็นธรรม นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้อเสนอของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน มีความห่วงใยและตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และจะนำข้อเรียกร้องของพี่น้องแรงงานทุกกลุ่ม ทั้ง 8 ข้อ มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องแรงงานทุกกลุ่มทุกคน ได้รับการคุ้มครองและได้รับความเป็นธรรมตามสิทธิทางกฎหมายที่สอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าทุกคน ทุกภาคส่วนเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศร่วมกัน รัฐบาลมีความเข้าใจในสถานการณ์ปัญหา และพร้อมจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการของสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม จากนั้น และเยี่ยมชมศูนย์โรคหลอดเลือดสมองของ รพ.จุฬารัตน์ อินเตอร์ 3 การให้บริการตรวจอัลตราซาวด์หัวใจ โดยอายุรแพทย์หัวใจ บริการตรวจสายตา ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด โดย รพ.ศิครินทร์ ซึ่งให้บริการตรวจฟรีแก่ผู้มาร่วมงานด้วย