ตายจากโควิดเหลือ 4-13 ราย/วันได้ แนะเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ-มีโรคประจำตัว

04 พ.ย. 2564 | 08:46 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2564 | 15:46 น.

หมอเฉลิมชัยเผยไทยไทยสามารถลดเสียชีวิตเหลือ 4-13 รายต่อวันได้ ถ้าเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวครบทุกราย หลังสถิติชี้ชัดผู้ตายมาจากกลุ่มเสี่ยงมากถึง 95%

รายงานข่าวระบุ น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ไทยสามารถลดเสียชีวิตเหลือ 4-13 รายต่อวันได้  ถ้าเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวครบทุกราย

จากข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิดที่ฉีดในประเทศต่างๆทั่วโลก พบตรงกันว่า
ประสิทธิผลของวัคซีน จะเกิดสูงสุดในเรื่องการป้องกันการเสียชีวิต มีประสิทธิผลรองลงมาในเรื่องการลดการเจ็บป่วย และมีประสิทธิผลลำดับสุดท้ายคือลดการติดเชื้อลง

ติดเชื้อโควิด-19 เดือนตุลาคม

สำหรับสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ขณะนี้ได้เริ่มเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
ในขณะที่ประเทศอยู่ในช่วงขาลงแบบชะลอตัว ประเด็นที่ทุกฝ่ายกำลังจับตามอง ก็คืออัตราการติดเชื้อ อัตราผู้ป่วย และอัตราการเสียชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร หลังการเปิดประเทศ
เมื่อพิจารณาข้อมูลต่างๆดังต่อไปนี้จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้พอสมควร
1.ผู้เสียชีวิตจากโควิดในประเทศไทย พบในกลุ่มเสี่ยงมากถึง 95% และพบในคนไม่เสี่ยงเพียง 5%
1.1 ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี พบ 73%  
1.2 ผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคประจำตัว พบ 22% 
1.3 อายุน้อยกว่า 60 ปีและไม่มีโรคประจำตัว พบ 5%
2.ค่าเฉลี่ยการเสียชีวิตในเดือนตุลาคม 2564 คือ 78 รายต่อวัน
2.1 วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เสียชีวิตสะสมระลอกที่สาม 16,756 ราย
2.2 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เสียชีวิตสะสมระลอกที่สาม 19,166 ราย
2.3 เสียชีวิตเพิ่มในเดือนตุลาคม 2410 ราย
2.4 เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 78 ราย
3.การฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง
3.1 อายุมากกว่า 60 ปี ฉีดวัคซีนเข็มสองแล้ว 54.6% 
3.2 อายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนไปแล้ว 56.4%   
3.3 ในกลุ่มผู้สูงอายุมี 10.90 ล้านคน
3.4 ในกลุ่มมีโรคเรื้อรังเจ็ดกลุ่มโรคมี 6.34 ล้านคน

การเสียชีวิตจากโควิด-19
4.ถ้าเราสามารถเร่งการฉีดวัคซีน ให้กับกลุ่มเสี่ยงทั้งสองกลุ่มได้ครบ 100%
4.1 จะต้องฉีดในผู้สูงอายุอีก 45.4% 
4.2 จะต้องฉีดกลุ่มมีโรคประจำตัวอีก 43.6%
5.ผลที่จะเกิดขึ้น ถ้าฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงได้ครบ 100%
5.1 จะลดการเสียชีวิตลง 95% จาก 78 รายเหลือ 4 รายต่อวัน 
5.2 ถ้าคิดโดยละเอียด คำนวณคณิตศาสตร์ให้ครบถ้วน จะลดการเสียชีวิตลง 83.15% จาก 78 รายเหลือ 13 รายต่อวัน
ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องเปิดประเทศ เพื่อผ่อนคลายให้มิติทางด้านเศรษฐกิจและทางด้านสังคมเดินหน้าต่อไปได้
หลังจากมีการระบาดของโควิดมาเกือบสองปี จึงเป็นความจำเป็นที่ทุกคนเข้าใจได้
แต่ความกังวลก็เข้าใจได้เช่นกันว่า มีความเสี่ยงที่จะมีผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
สิ่งที่จะสามารถทำได้อย่างดีคือ การลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงให้เหลือวันละ 4-13 รายต่อวัน
ซึ่งสามารถทำได้ โดยการเร่งระดมฉีดวัคซีนจำนวนประมาณ 10 ล้านโดสเศษให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเจ็ดกลุ่มโรคให้ครบถ้วน
ก็จะทำให้ลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ 83-95%  แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ลดลงก็ตาม
การระดมฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงทั้งสองกลุ่มดังกล่าว จึงเป็นมาตรการสำคัญ ที่รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการในช่วงเปิดประเทศนี้
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-2 พ.ย. 64 มีการฉีดวัคซีนสะสมจำนวน 77,014,092 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 42,815,600 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 31,730,365 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 2,468,127 ราย