ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 2,861.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ. 68) เวลา 13.41 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18.41 GMT) เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,886.62 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ(Gold Futures) เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 2,887.60 ดอลลาร์
เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของโบรกเกอร์ High Ridge Futures กล่าวว่า ตลาดทองคำยังคงให้ความสนใจกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้เริ่มสงครามการค้า โดยได้ดำเนินการตามคำขู่ที่จะขึ้นภาษีศุลกากรต่อจีน ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็ได้ให้เวลาผ่อนผันแก่เม็กซิโกและแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือน
ทองคำซึ่งใช้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเงิน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปีที่ 2,882.16 ดอลลาร์ในวันพุธ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
อย่างไรก็ดี รายงานของกระทรวงแรงงานระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 143,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4% เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.1%
นายบาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของวาณิชธนกิจ TD Securities กล่าวว่า การเติบโตของค่าจ้างและการจ้างงานที่ลดลงสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาดและภาวะเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น และเป็นการท้าทายความสามารถของธนาคารกลางสหรัฐในการปรับอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโก กล่าวว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งพร้อมการจ้างงานเต็มที่และภาวะเงินเฟ้อที่คลี่คลาย จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ แต่ความไม่แน่นอนด้านภาษีศุลกากรธนาคารกลางต้องใช้ความระมัดระวัง
ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานบริษัท Zaner Metals ผู้ค้าโลหะมีค่า ระบุว่า ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนยังซื้อทองคำเพิ่มขึ้น