“ดาวโจนส์” ร่วงแรงกว่า 400 จุด หลังตลาดกังวลเงินเฟ้อพุ่งสูง-สงครามการค้า
“ดาวโจนส์” ร่วงลงแรงกว่า 400 จุด หลังตลาดมีความกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้นกว่า 4.5% ในช่วงของการซื้อขาย และสงครามการค้า
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 444.23 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 44,303.40 จุด เมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ. 68)
ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.95% ปิดที่ 6,025.99 จุด
ดัชนี Nasdaq Composite ร่วง 1.36% ปิดที่ 19,523.40 จุด
ทั้งนี้ การร่วงลงของวันศุกร์ทำให้ดัชนีหลักอยู่ในแดนลบในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะตึงเครียดก่อนที่ทรัมป์จะออกมาแสดงความคิดเห็น เนื่องจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการจ้างงานบางส่วนในช่วงก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของกระทรวงการคลังพุ่งสูงขึ้นกว่า 4.5% ในช่วงของการซื้อขาย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเหลือ 67.8 ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดย Dow Jones คาดการณ์ไว้ที่ 71.3
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าอัตราเงินเฟ้อ 1 ปีจะพุ่งสูงถึง 4.3% ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% จากเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023
รายงานการจ้างงานเดือนมกราคมซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ยังระบุว่าอัตราการว่างงานลดลงจาก 4.1% เหลือ 4% และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงในเดือนที่แล้วสูงกว่าที่คาดไว้
ราคาหุ้นของ Amazon ร่วงลง 4% หลังจากยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซออกรายงานแนวโน้มรายได้ที่ทำให้บรรดานักลงทุนผิดหวัง บริษัทคาดการณ์ว่ารายรับจะเติบโต 5% ถึง 9% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดเป็นประวัติการณ์ รายงานแนวโน้มรายได้ดังกล่าวบดบังผลประกอบการที่ทั้งรายรับและกำไรในไตรมาสที่ 4 สูงเกินคาด
ส่วนราคาหุ้น Alphabet ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากผลประกอบการที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในช่วงต้นสัปดาห์
แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทวิจัยตลาดการเงิน CFRA Research กล่าวว่า ตลาดเพิ่งผิดหวังกับกลุ่มเทคโนโลยีหรือ หุ้นเจ็ดนางฟ้า Magnificent Seven ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำให้ผิดหวัง ดังนั้นจึงคิดว่าจะได้เห็นเงินไหลออกจากกลุ่มเหล่านี้ โดยคิดว่ากำลังมุ่งหน้าสู่ตลาดหมี แต่มีแนวโน้มว่ากำลังมุ่งหน้าสู่ความผันผวนและความผิดหวังในระยะสั้น
สำหรับสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ผันผวน หุ้นร่วงลงในวันจันทร์หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10% เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเสนอที่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% แต่หลังจากนั้นก็หยุดการขึ้นภาษีไว้ 30 วัน จากนั้นดัชนี S&P 500 ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันสามวันจากการยกเลิกภาษีนำเข้า ก่อนที่จะร่วงลงอีกครั้งในวันศุกร์