นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เผยในบทวิเคราะห์ CPALL ว่า ตามที่บลูมเบิร์กรายงานข่าว กลุ่ม CP อาจจะเข้าร่วมลงทุนซื้อกิจการ Seven and I ในสัดส่วน 5 แสนล้านเยน (1.1 แสนล้านบาท) การเจรจาทำ MBO ยังไม่มีข้อสรุปแต่มีแนวโน้มปรับมูลค่าลงจาก 9 ล้านล้านเยน (vs Couche-tard ยื่นข้อเสนอ 7.5 ล้านล้านเยน)
ฝ่ายวิจัยมองลบต่อข่าวกลุ่ม CP จะเข้าร่วมลงทุนซื้อกิจการ Seven and I เพราะประเมินดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากดีลนี้จะสูงกว่าเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนในระยะสั้น คาดเป็น downside ต่อประมาณการกำไรปี 2568-2569 ราว 7-8% ต่อปี อัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนขยับขึ้นเป็น 1.3 เท่า
บล.เอเซียพลัส ระบุว่า สื่อต่างประเทศ เผยว่าสถาบันการเงินในอเมริกา คือ Citi Group และ Bank Of America อาจปล่อยกู้ในดีลการซื้อ Seven & i ที่อาจมีมูลค่าถึง 9 ล้านล้านเยน และ CPALL กำลังพิจารณาเข้าร่วมซื้อหุ้นในมูลค่า 5 แสนล้านเยน (1.1 แสนล้านบาท)
ปัจจุบัน CPALL ยังไม่ได้แจ้งว่าจะร่วมลงทุนหรือไม่ ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยกดดัน ราคาหุ้นอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงคงคำแนะนำเพียง Neutral แต่หากเข้าลงทุนใน Seven & I ด้วยเม็ดเงิน 5 แสนล้านเยน ตามข่าวจริง โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ทั้งหมด และอิงดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ 3.5-6.0% เบื้องต้นประเมินว่าจะทำให้คาดการณ์กำไรปี 2568 ของฝ่ายวิจัยปรับลด 3.3-11.8% จากเดิม และจะทำให้ราคาเป้าหมายลดเหลือ 67.00-73.50 บาท
สื่อต่างประเทศ ระบุว่า สถาบันการเงิน 2 แห่งในอเมริกา คือ Citi Group และ Bank Of America จะปล่อยกู้แก่ดีลในการเข้าซื้อบริษัทค้าปลีกญี่ปุ่น (Seven & i) ที่อาจ มีมูลค่าสูงถึง 9 ล้านล้านเยน และ CPALL (หนึ่งในบริษัทที่กลุ่มผู้ก่อตั้งเดิมของ Seven & i ได้เจรจาเพื่อให้เข้าร่วมลงทุนใน Management Buy Out-MBO ครั้งนี้) กำลังพิจารณาแผนการเข้าร่วมลงทุนในมูลค่าประมาณ 5 แสนล้านเยน
อ้างอิงเม็ดเงินลงทุน ตามที่ข่าวระบุ หาก CPALL ตัดสินใจลงทุนใน Seven & i ด้วยมูลค่า 5 แสนล้านเยน จะคิดเป็นสัดส่วนราว 5.6% ของมูลค่ากิจการรวมที่ 9 ล้านล้านเยน (1.99 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นการร่วมลงทุนที่ใช้เงินราว 1.1 แสนล้านบาท
หากกำหนดให้แหล่งเงินทุนทั้งหมดสำหรับการเข้าร่วมลงทุนของ CPALL มาจากการกู้ยืม (กรณีกู้ยืมในไทยคาดดอกเบี้ยที่ 3.5-4.0% แต่หากกู้ยืมจากสถาบันการเงินในอเมริกา คาดอัตราดอกเบี้ยที่ 4.5-6.0%) จะทำให้ CPALL มีภาระดอกเบี้ยจ่าย (สุทธิหลังภาษี) เพิ่มขึ้น 3.1 – 5.3 พันล้านบาทต่อปี
ขณะที่จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก Seven & i ราว 2.2 พันล้านบาท (อ้างอิงบลูมเบิร์กที่คาดการณ์กำไรปี 2568 Seven & i จะมีกำไรสุทธิ 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 4 หมื่นล้านบาท และใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 34.5 บาท) ทำให้โดยรวมแล้ว คาดว่าการลงทุนใน Seven & i ด้วยเม็ดเงิน 5 แสนล้านเยนตามข่าว จะส่งผลให้คาดการณ์กำไรปี 2568 ของฝ่ายวิจัย สำหรับ CPALL ลดลงไปจากเดิม 3.3% - 11.8% จาก คาดการณ์กำไรปีนี้ของฝ่ายวิจัย
"กรณีเข้าลงทุน ตามข่าวระบุเบื้องต้นหากบริษัทมีการเข้าลงทุนใน Seven & i จริง จะบั่นทอนการเติบโตของกำไรใน ระยะแรกจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เข้ามาเพิ่ม นอกจากนี้การกู้ยืมจากสถาบัน การเงินในอเมริกา คาดจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการกู้ยืมในประเทศ"
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPALL กำลังพิจารณาเข้าร่วมซื้อหุ้น Seven & I holdings Co.,Ltd ตามแผนซื้อกิจการของผู้บริหาร วงเงินเข้าร่วมลงทุนประมาณ 5 แสนล้านเยน (1.10 แสนล้านบาท) ซึ่งตามข่าวของบลูมเบิร์กการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะใช้เงินทุนรวมประมาณ 4 ล้านล้านเยน และที่เหลือจะมาจากการกู้ธนาคาร
เมื่อใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล (dividend payout) จาก consortium ที่ 40% เงินปันผลที่ส่งมาที่ CPALL จะอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาทในปี 2568 และ 2.2 พันล้านบาทในปี 2569 เมื่อหักกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ดีลนี้จะส่งผลขาดทุนมาที่ CPALL 1.7 พันล้านบาทในปี 2568 และ 1.3 พันล้านบาทในปี 2569
ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ของทางฝ่ายมี downside 6% และ ปี 2569 มี downside 5% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ CPALL ปีนี้จะลดลงจากเดิม 7% เป็นทรงตัวหลังการเข้าลงทุนในดีลนี้
ในแง่ของงบดุล ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น 1.10 แสนล้านบาท จะทำให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ปรับใหม่ (net debt to adjusted equity) อยู่ที่ประมาณ 1.2 เท่า
"มองว่าการลงทุนในดีลนี้จะมี synergy จำกัด แต่ดีลนี้อาจจะช่วยให้สัญญาแฟรนไชส์ระหว่าง CPALL และ Seven & I holdings Co., ltd. มีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าดีลนี้จะส่งผลลบกับ CPALL อยู่บ้าง เพราะเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนน่าจะต่ำกว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และ ฉุดกำไรโดยรวมให้ลดลง"
ถึงแม้ว่าดีลนี้จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และบริษัทยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ กับดีลนี้ แต่คาดว่าดีลนี้จะเป็นประเด็นค้างคา และอาจจะกดดันราคาหุ้น CPALL ซึ่งหากดีลเป็นไปตามที่ประเมินไว้ข้างต้น ก็น่าจะต้องมีการปรับประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และอาจจะทำให้มีการ de-rate PER ลงเพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอลงของ CPALL (จากที่คาดว่าจะโต 7% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นทรงตัวในปี 2568)
ทั้งนี้ จนกว่าดีลนี้จะได้ข้อสรุป หรือได้รับคำยืนยันจากบริษัท แนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อน คงคำแนะนำซื้อ CPALL โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 79.00 บาท อิงจาก PER ที่ 27.0 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศไทย และในตลาดโลกในอดีต -0.5 S.D.)
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า บลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 ว่า CPALL กำลังพิจารณาลงทุน 500,000 ล้านเยน (3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการทำ Management buyout (MBO) ของ Seven& i Holdings นำโดยตระกูล Ito และบริษัท Itochu Corp
โดยดีลนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการเข้าซื้อกิจการ (takeover) จากบริษัทค้าปลีกสัญชาติแคนาดา Alimentation Couche-Tard ที่ก่อนหน้านี้เคยเสนอราคา 7.5 ล้านล้านเยน (4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับ Seven& i Holding ดีลนี้จะทำให้ CPALL ได้สัดส่วนการถือหุ้น 5.6% แต่ต้นทุนทางการเงินอาจสูงกว่ารายได้จากเงินปันผล
ซึ่งอาจส่งผลกระทบราว 2.1 พันล้าน (8% ของกำไรสุทธิปี 2568) ดังนั้น ภายใต้ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่ชัดเจน ทางฝ่ายมีความกังวลด้าน Corporate governance ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดการประเมินมูลค่า อย่างไรก็ตาม แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 80.0 บาท โดย Wait-and-see