ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 4ก.พ.ที่ระดับ 33.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากแรงขายเงินดอลลาร์ฯ หลังปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ชะลอการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้ากับเม็กซิโกและแคนาดาออกไป
ขณะที่ตลาดยังคงจับตาสัญญาณของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจีนออกมาตอบโต้มาตรการทางภาษีการค้าของสหรัฐฯ หลังจากมาตรการของสหรัฐฯ ในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% มีผลบังคับใช้ในวันนี้ สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 684.42 ล้านบาท แต่ยังคงมีสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยต่อเนื่องอีก 2,653 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -20.12 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -16.82 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.60-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สัญญาณตึงเครียดในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI และ ISM ภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.