สรุปวงเงิน STARK ต้องจ่าย KBANK ชดใช้หุ้นกู้ ตามคำสั่งศาลฯ ขีดเส้น 30 วัน

24 เม.ย. 2567 | 15:39 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2567 | 16:05 น.
1.8 k

สรุปวงเงิน ศาลแพ่งสั่ง STARK ต้องจ่าย"แบงก์กสิกรไทย" ชดใช้หุ้นกู้ 4 รุ่น กว่า 5,315 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายอีก 1 ใน 4 ขีดเส้น 30 วัน ไม่เกิน 23 พ.ค. 67 นี้ เช็คมีอะไรบ้าง

วันนี้ (24 เม.ย.67) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้น สำหรับหุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) STARK239A , STARK249A , STARK245A และ STARK255A  แจงความคืบหน้าในคดีที่ธนาคาร ฯ ได้มีการฟ้องร้องให้บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ผู้ออกหุ้นกู้) ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้ครั้งที่1/2564 ในคดีหมายเลขดำที่ ผบ. 347/2566 และหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ในคดีหมายเลขดำที่ ผบ. 403/2566 (รวมการพิจารณาคดีทั้งสองเป็นคดีเดียวกัน) ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 23 เมษายน 2567 นั้น

 

โดยหนังสือฉบับนี้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาโดยสรุป ดังนี้

1) ให้จำเลยชำระเงินตามหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จำนวน 2,268,936,691.27 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5.50 ต่อปี ของต้นเงินตามหุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวน 1,291,500,000 บาท และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5.90 ต่อปีของต้นเงินตามหุ้นกู้ชุดที่ 2 จำนวน 949,500,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 4 กรกฎาคม 2566) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

2) ให้จำเลยชำระเงินตามหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 และชุดที่ 3 จำนวน 3,045,638,427.17 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 5.80 ต่อปี ของต้นเงินตามหุ้นกู้ชุดที่ 2 จำนวน 1,701,100,000 บาท และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 6 ต่อปี ของต้นเงินตามหุ้นกู้ชุดที่ 3 จำนวน 1,322,000,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 21 กรกฎาคม 2566) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

3) ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเพื่อการลงโทษอีก 1 ใน 4 ของค่าเสียหายที่ศาลกำหนด

4) ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมของทั้งสองคดีแก่โจทก์

5) ให้จำเลยชำระค่าทนายความให้แก่โจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ รวม 400,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับ
 

โดยศาลได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติตามคำพิพากษาในวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 คู่ความที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาดังกล่าวมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษา หรือภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากศาล

ทั้งนี้ หากผู้ออกหุ้นกู้ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายในระยะเวลาข้างต้น ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาโดยเร็ว และหากมีความคืบหน้าที่สำคัญประการใด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้ทราบต่อไป

นอกจากนี้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ขอเรียนแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

การดำเนินการลงทะเบียนผู้เสียหายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ

หลังจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้ลงทะเบียนผู้เสียหายในคดีพิเศษที่ 57/2566 ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ปัจจุบันพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับพวก ต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.90/2567 โดยศาลได้กำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2567

การดำเนินการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

หลังจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2567 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าที่สำคัญเป็นประการใด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้ทราบต่อไป

ที่มา : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)