ตลท.ประกาศให้หุ้น STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม เหตุไม่ส่งงบ Q1/66

16 พ.ย. 2566 | 09:08 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2566 | 09:11 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้หุ้น STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม จากกรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566

ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประกาศให้หุ้นสามัญของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK  มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน 2 เหตุ ได้แก่ กรณีงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีปรากฎส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และกรณี STARK เปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน

ต่อมาได้ปรากฎข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า STARK ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ( คือล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2566)อันเป็นเหตุให้หุ้นสามัญของ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ข้อ 7 (2) และ (4) ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงประกาศให้หุ้นสามัญของ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566
 

ดังนั้น ในปัจจุบัน หุ้นสามัญของ STARK จึงมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนรวมทั้งสิ้น 3 เหตุ และมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการในแต่ละเหตุ ดังนี้

  • กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567
  • กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568
  • กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569

ทั้งนี้ STARK มีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนดังกล่าวข้างต้นให้หมดไป และดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายภายในกำหนดระยะเวลาของแต่ละเหตุ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หาก STARK ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหุ้นสามัญของ STARK ต่อไป


 

1 บริษัทจดทะเบียนฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง มติคณะกรรมการ ข้อตกลงการจดทะเบี้ยนหลักทรัพย์กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดจนหนังสือเวียนใดๆ ที่ลาดหลักรัพย์ฯ กำหนดให้ถือปฏิบัติ อันอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือการตัดสินใจของผู้ลงทุ่น หรือการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์

2 บริษัทจดทะเบียนไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ หรือมีข้อผิดพลาดในกรเปิดเผยข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ อันอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงจ่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือการตัดสินใจของผู้ลงทุน หรือการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์