ชู "หุ้นเทคฯสหรัฐ" ลุ้นราคาวิ่งแรงรับข่าว Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด  เปิดเผยว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 นักลงทุนต่างคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond yield) อายุ10 ปี  ปรับตัวลดลง ประเด็นนี้จะส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งราคาหุ้นมักจะเคลื่อนไหวสวนทางกับ Bond yield 10 ปี ของสหรัฐ ฯ มาโดยตลอด

นอกจากนี้ ในปัจจุบันมูลค่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเพราะได้ปรับลงสะท้อนข่าวนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์กำไรไปมากแล้ว และในอดีตเมื่อดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุุด ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมักจะเริ่มฟื้นตัวได้ 

ดังนั้น เพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้า จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส เทคโนโลยี ทริกเกอร์ 5M#2 (TTECH5M2) เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ผ่านกองทุนอีทีเอฟ The Technology Select Sector SPDR Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนี Technology Select Sector ซึ่งเป็นดัชนีที่มีส่วนประกอบเป็นหลักทรัพย์ซึ่งถูกจัดกลุ่มให้อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในดัชนี S&P 500 ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วย ภายในระยะเวลา 5 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 24 - 26 เมษายน 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท      

“บลจ.ทิสโก้ไม่อยากให้นักลงทุนพลาดโอกาสการลงทุนสำคัญก่อนที่ Fed จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย ซึ่งนักลงทุนคาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ โดยหลังจากนี้จะเป็นช่วงอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรืออัตราดอกเบี้ยขาลง ประเด็นดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีขึ้น ส่งผลบวกโดยตรงต่อราคาหุ้นเทค ซึ่งข้อมูลจาก Tradingview  พบว่าในอดีตแต่ละครั้งที่หุ้นเทคปรับขึ้นระยะสั้นรับข่าวดี ราคาหุ้นเทคมักจะขึ้นแรงเสมอ และเพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างกำไรที่ดีให้ลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงจับจังหวะเสนอขาย TTECH5M2 และค่อนข้างมั่นใจว่าจะบริหารให้กองทุนถึงเป้าหมายได้ในระยะเวลา 5 เดือน” นายสาห์รัชกล่าว  
 

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก SPDR ณ วันที่ 10 เมษายน พบว่า หุ้น Microsoft , Apple และ Nvidia เป็น 3 บริษัทอันดับแรกๆ ที่กองทุนหลักเข้าลงทุน ซึ่ง บลจ.ทิสโก้พบว่าทั้ง 3 บริษัทต่างมีปัจจัยบวกรออยู่

โดย Microsoft มีปัจจัยบวกจากการรุกธุรกิจ Search engine ในชื่อ Bing ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ Apple รุกธุรกิจการเงินที่ครบวงจรและเตรียมเปิดตัว VR Headset ด้าน Nvidia จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการพัฒนา A.I จากการเป็นผู้ผลิต GPU ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการใช้สูงมากในอนาคต 

ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก การกำหนดเป้าหมาย 10.50 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี) ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน