SCBXผนึกพันธมิตรชิงเค้ก "ธนาคารไร้สาขา-Virtual Bank"

24 ก.พ. 2566 | 07:34 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.พ. 2566 | 09:41 น.

SCBX ลั่นเตรียมประกาศพันธมิตร “ Virtual Bank” ขยายฐานลูกค้ากลุ่มUnbanked หนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐานของธปท.

นายอาทิตย์   นันทวิทยา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCBX เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  ทิศทางของSCBX ยังคงเป็นไปตามแผนเดิม คือ การขยายช่องทางที่จะเป็นไฟแนนซ์เชียลเทคโนโลยี( ภายใต้วิสัยทัศน์ the Most  Admined  Financial Technology Group in Asian)

โดยเฉพาะโอกาสดิจิทัลหรือความสามารถด้านเทคโนโลยี  ซึ่งเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ราคาสินทรัพย์หลายบริษัทปรับตัวจากเศรษฐกิจโลก  จึงถือโอกาสนี้มองโอกาสที่จะเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยีไปในภูมิภาคแต่ไม่พลีพลามต้องดูอย่างรอบคอบ

ต่อข้อถามความสนใจขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ไร้สาขา(Virtual Bank)นั้น นายอาทิตย์กล่าวยืนยันว่า  SCBXมีความสนใจ ที่จะดำเนินธุรกิจ  “เวอร์ชวลแบงก์”

ทั้งนี้จะไปในนามของ  SCBX โดยไม่ได้ไปในนามของธนาคารไทยพาณิชย์  ซึ่งเป็นรูปแบบจับมือกับพันธมิตร และยัง อยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรหลายรายแต่คาดว่า คงไม่นานจะประกาศ

พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า การออกใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่ไม่มีสาขาหรือ Virtual Bank นั้น

เป็นนโยบายส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ต้องการให้ทำเพื่อคนที่ยังเข้าไม่ถึงระบบไม่ใช่ให้ธนาคารทำเหมือนเดิม 

แบงก์ชาติออกใบอนุญาต Virtual Bank เพื่อนโยบายFinancial Inclusion ไม่ได้ออกใบอนุญาตมาเพื่อให้แบงก์ทำเหมือนเดิม  แต่ทำเพื่อคน อีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าถึงระบบ เป็นสินเชื่อนอกระบบอยู่ใน Shark Loan 
ถ้าเอา  License  Virtual Bank ไปทำเหมือนเดิมก็จะกระทบระบบซึ่งก็ไม่เหมาะที่จะทำ เรื่องนี้ ยังมีคนอย่างเข้าใจผิด อีกมาก"

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากระบบเงินฝากของประเทศไทยราว 15-16ล้านล้านบาท และสินเชื่อราว 14-15ล้านล้านบาท เหล่านี้คือ ลูกค้าที่มีรายได้สูงระดับหนึ่งและเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ดั่งเดิม(กลุ่มMass -Upper mass) แต่ยังมีอีกหลายสิบล้านคนที่เป็นสินเชื่อนอกระบบ

ยกตัวอย่างในอินโดนีเซียจะกำหนดโจทย์ในการที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยบางส่วน หรือจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก 

ถ้าช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากต้องตั้ง KPI ให้ชัดเพื่อที่จะให้ครอบคลุมคนจำนวนมาก   เพราะถ้าเพดานการผ่อนชำระปริ่มๆจะทำให้คน ที่ได้รับใบอนุญาตทำ Virtual Bank จะเลือกปล่อยสินเชื่อ

สุดท้ายก็จะปล่อยอยู่ไม่กี่คนหมายความว่าLicenseที่ออกมาก็จะเสียของ ดังนั้นโจทย์ของการทำ Virtual Bank จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของตัวชี้วัด(KPI)ด้วย

“ โจทย์ของSCBX ที่ตั้งไว้เป็นหนึ่งใน Pain point คือ จะลงทุนเพื่อดูแลกลุ่มUnbanked เพราะเรามีแบงก์ไทยพาณิชย์ดูแลเซ็กเมนต์ระดับกลางและระดับบนอยู่แล้ว อันนี้เป็นความตั้งใจของเรา”

นายอาทิตย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งบริษัท 12 บริษัทโดยหลายบริษัทเริ่มมีความพร้อมในการเริ่มธุรกิจโดยทั้งปีนี้คงจะเห็นความก้าวหน้าของสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว ให้เติบโตขึ้นมาและหาโอกาสใหม่ๆและหาโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะต่างประเทศก็ยังคงทำอยู่ และเป็นทิศทางที่จะทำในหลายเรื่อง

ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบันสามารถเป็น Cash cow (กลุ่มธุรกิจธนาคารการเงินและประกัน) ของกลุ่มที่มีความแข็งแรงดูแลระบบเศรษฐกิจโดยรวมเป็นหลัก และเดินหน้าธุรกิจที่มีความมั่นคง ตามที่ควรจะเป็นบทบาทของธนาคาร

แต่ในส่วนอื่นที่ต้องเน้นความก้าวหน้าให้สอดคล้องกับทิศทางเทคโนโลยีของโลก SCB x จะทำหน้าที่ดูแลและทดลองอยู่นอกธนาคาร

สำหรับบริษัทที่ได้ลงทุนไปแล้วซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้น ซึ่งต้องให้เวลากับสิ่งเหล่านี้ ในการพัฒนาให้เติบโตอย่างแข็งแรง