โอกาสลงทุนกอง REITs ชี้ราคายังตํ่า
PF&REIT เดือนมิ.ย.2564 ฟื้นตัวบวก 4.70% สวนทางหุ้นไทยลบ 0.09% เผยมีแนวโน้มดีขึ้นจากแผนการฉีดวัคซีนและเปิดประเทศ คาดครึ่งปีหลังมีโอกาสให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง
ในภาวะที่ ตลาดหุ้นไทย ยังคงผันผวน และ อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนในกองทุนรวมยังคงเป็นทางเลือกที่ช่วยได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (PF) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)” ที่ยังคงให้ผลตอบแทนดี และมีเงินปันผลสม่ำเสมอ จากการที่มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบค่าเช่า ถึงแม้ปัจจุบันจะยังเผชิญกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ยังคงมีการเติบโตและมีรายได้ต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า การซื้อขายในหุ้นกลุ่ม PF & REIT ระหว่างวันที่ 1-23 มิถุนายน ปรับเพิ่มขึ้น 4.70% ส่วนหุ้นไทยลดลง 0.09% ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ปรับเพิ่มขึ้น 2.14% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 9.84% แต่หากเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิดรอบแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ถึงปัจจุบัน พบว่า PF & REIT ลดลง 44.31% ด้านหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 18.76%
นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัดเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมถือว่า ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆอย่างเช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และสนามบิน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มที่มีความต้องการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต การส่งออก รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ที่ยังสามารถขยายตัวและเติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามคาดว่า แนวโน้มกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรมต่อจากนี้่ จะได้รับประโยชน์จากการเร่งฉีดวัคซีนโควิดและเตรียมเปิดประเทศ เพราะจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งการเปิดเมือง นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาอีกครั้งแล้ว ยังมีการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติมอีกด้วย โดยคาดว่าจะช่วยให้การเช่าพื้นที่กลับมาเป็นปกติตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565
ส่วนกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังไม่ไหลกลับเข้ามาในไทยนั้น มองว่า เป็นเพราะนักลงทุนยังคงมองหาการลงทุนอื่นที่ให้โอกาสและผลตอบแทนที่มากกว่า
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรินซิเพิล จำกัดกล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 2564 มองว่า REIT มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน เนื่องจากราคาในปัจจุบันยังปรับตัวเพิ่มขึ้นช้ากว่าหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะ REIT ในไทยและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่ราคายังฟื้นตัวช้ากว่าในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐที่มีการเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา หลังจากพัฒนาวัคซีนได้เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ราคา REIT ในกลุ่มค้าปลีกและโรงแรมปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ขณะเดียวกัน REIT ในไทยน่าสนใจ เนื่องจากมีโอกาสที่ราคาและอัตราผลตอบแทนจะปรับเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลเริ่มกระจายวัคซีนที่รวดเร็วขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 และประกาศเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วัน โดยยังมีปัจจัยต้องติดตามที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุน คือ การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ การเร่งกระจายการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว เพราะมีผลต่อการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้ง REIT เพื่อผู้ลงทุนในวงจำกัด ซึ่งจะช่วยให้มีความคล่องตัวในการระดมทุน โดยเป็นทรัสต์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้จัดการกองทรัสต์ (RM) หรือกลุ่มบุคคลเดียวกันของ RM ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป, ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายทั้งหมด, กู้ยืมเงินหรือก่อภาระผูกพันได้เช่นเดียวกับ REIT ทั่วไป และผู้เสนอขายต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (ไฟลิ่ง) รวมถึงร่างหนังสือชี้ชวน มีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 1 วันทำการนับแต่วันที่ ก.ล.ต. ได้รับแบบไฟลิ่ง และให้รายงานผลการขายภายใน 15 วันทำการนับแต่วันปิดการเสนอขาย
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษบกิจ ฉบับที่ 3,691 วันที่ 27 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: