ทีเอ็มบีส่งไม้ต่อ แบรนด์ใหม่ “ทีทีบี”พร้อมให้บริการเป็นทางการ 5ก.ค.2564

ทีเอ็มบีส่งไม้ต่อ แบรนด์ใหม่ “ทีทีบี”พร้อมให้บริการเป็นทางการ 5ก.ค.2564  เปิดโมเดล Digital  Centric เดินหน้าช่วยลูกค้าเสริมสภาพคล่อง รวมทั้งสินเชื่อฟื้นฟูและพักหนี้ แผนธุรกิจปีนี้ เร่งเครื่อง 3 เรื่องสำคัญ -แจ้งลูกค้าเปลี่ยนเลขบัญชีเงินฝาก-กองทุน-ประกันโดยธนาคารจัดส่งหนังสือกลางเดือนพ.ค.นี้

 ประกาศความพร้อม 5 ก.ค. “ทีเอ็มบีธนชาต” หรือ ttb (ทีทีบี)  One Bank  One Team และ One Dream ธนาคารแห่งใหม่ ภายใต้การประสานจุดแข็งทีเอ็มบีธนชาตเดินหน้าสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต ผ่าน Financial Well-being solutionเพื่อให้ทั้งธุรกิจและบุคคลมีความมั่นคงในทุกช่วงชีวิต

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การรวมทีมของสององค์กรได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% ผนึกเป็น One Team ที่พร้อมจะสานต่อ One Dream ที่มีร่วมกัน คือ การสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ ผ่านโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง โดยปีนี้แผนควบรวมระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ยังเป็นไปตามแผนเพื่อเป้าหมายการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ (EBT) ภายในเดือนกรกฎาคม 2564

แนวทางดำเนินธุรกิจ ทีทีบีเน้นดูแลลูกค้าเก่าที่มีอยู่กว่า 10ล้านบัญชี ทั้งบุคคลและธุรกิจ โดยเฉพาะช่วงเผชิญวิกฤติโควิด ธนาคารพร้อมจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่เอสเอ็มอี รายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้หรือเสริมสภาพตล่อง โดยปีที่แล้วธนาคารช่วยเหลือลูกค้า 7.5แสนราย ซึ่งเป็นข่าวดีที่ลูกค้า 90%สามารถกลับมาชำระเป็นปกติได้ และในปีนี้ได้ประสานธนาคารแห่งประเทศไทยกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อที่จะช่วยดูแลลูกค้าแต่กลุ่มแต่ละราย เพราะผลกระทบที่แตกต่างกัน โดยหวังจะให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิคไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งจะมีทั้งสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้

          ขณะเดียวกันทีทีบีเร่งดำเนินการไว้ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. ขยายฐานลูกค้าจากลูกค้าเก่าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก (main bank) ผ่าน Financial Well-being solution โดยเน้นดูแล ลูกค้าเก่ารวมกว่า 10 ล้านราย โดยมุ่งจะทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 4 เสาหลัก (Financial Well-being pillars) ได้แก่ ฉลาดออม ฉลาดใช้ (Mindful spending & start saving), รอบรู้เรื่องกู้ยืม (Healthy borrowing), ลงทุนเพื่ออนาคต (Investing for future) และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ (Sufficient protection)

2. สร้างศักยภาพทางด้าน “Digital-first operating model” บนโมบายแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม ตอบโจทย์ลูกค้าที่เปลี่ยน และมีความคล่องตัวที่สูงขึ้นในการขับเคลื่อนนวัตรรม และ 3. สร้างศักยภาพบุคลากร (People development) เพื่อสนับสนุนการสร้าง Humanized digital โดยพัฒนายกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Up-skill) และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (Re-skill) ที่เหมาะสม เพื่อผสานเทคโนโลยีกับผลิตภัณฑ์ผ่านพนักงานของธนาคารในการสร้างความสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน  โดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เพื่อให้สอดรับกับแต่ละช่วงของชีวิต

“ Model ที่จะไปต่อ เราจะเป็น Digital Centric  หมุนรอบโมบาบแบงกิ้งโดยมีสาขา และ Up-skill และ Re-skill พนักงาน16,000คนควบคู่กับดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งแตกต่างกันแต่ละช่วงชีวิต โดยมีเป้าหมายหลักให้ลูกค้ามีภูมิคุ้มกันทางการเงินที่แข็งแรงและถาวร ทั้งบุคคลและธุรกิจ”

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่าว่า ทีทีบีได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝาก  กองทุน ประกันภัย ประกันชีวิต   ทั้ง จับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มแต่ละช่วงชีวิต เพื่อให้ลูกค้าเลือกทีทีบีเป็นธนาคารหลัก ด้วยสิทธิพิเศษที่เหมาะกับแต่ละบุคคลแต่ละช่วงชีวิต ทั้ง 4 กลุ่มได้แก่ 1. กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน กำลังก่อร่างสร้างตัว เพื่อล้านแรกในชีวิต เน้นโซลูชันด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง รวมถึงประกันอุบัติเหตุฟรี

2. กลุ่มลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องการชีวิตอิสระทางการเงิน ธนาคารมีโซลูชันทั้งเริ่มต้นเก็บออม และลงทุนเพื่ออนาคตและ บริหารจัดการให้ปลอดหนี้ 3. กลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ต้องการมีชีวิตที่มั่นคงและเกษียณอย่างไร้กังวล ธนาคารเน้นการให้ความรู้ด้านการลงทุน จัดทัพตามความเสี่ยง ต่อยอดความมั่งคั่ง ผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และ ttb smart port  พอร์ตการลงทุน ที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนครบวงจร โดยมืออาชีพ  4. กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง เตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ ใช้ชีวิตได้ตามใจ สุขภาพเป็นหนึ่ง และส่งต่อมรดกลูกหลาน

นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์กว่า 4แสนล้านบาท ภายใต้แบรนด์  “ ttbDRIVE”   มีเป้าหมายต้องทำให้เติบโตแข็งแรงคู่กับธุรกิจ และในส่วนลูกค้ารายย่อย  นอกจากด้านสินเชื่อแล้ว ทีทีบีมีการนำเสนอบริหาร ให้ลูกหนี้ที่มีรถยนต์ บ้านเป็นหลักประกันรวมกันเพื่อลดภาระและดอกเบี้ยลง  โดยแนวทางเสริมสภาพคล่องลูกค้าปัจจุบันเน้นให้ความช่วยเหลือเป็นรายกรณี ไม่ว่าลูกค้าธุรกิจหรือรายย่อย

          สำหรับปีนี้ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารภายใต้แบรนด์ ttbDRIVE พร้อมขับเคลื่อนสนับสนุนครอบคลุมทุกภาคส่วนใน ecosystem ของธุรกิจรถยนต์ ด้วยภารกิจ “มากกว่าสินเชื่อรถ... เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น”  ได้แก่

1. พร้อมขับเคลื่อนให้ลูกค้าไปต่อ โดย ttbDRIVE ช่วยลูกค้าเคลียร์หนี้ เพิ่มสภาพคล่องด้วย “รถแลกเงินเคลียร์หนี้” และสร้างวินัยในโครงการ “จ่ายดีมีคืน” อีกทั้งใช้โปรแกรม auto-approve ผนวกกับ scoring model พร้อมเจ้าหน้าที่ ttbDRIVE agent ช่วยให้บริการได้อย่างครอบคลุมและลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อสะกวกและรวดเร็ว

2. พร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจคู่ค้าไม่สะดุด โดยได้เปิดตัว “DRIVE Connect Platform” มิติใหม่ของการทำตลาดออนไลน์ผ่านทาง Facebook ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว (ดีลเลอร์รถมือสอง) และยังมีระบบ “Cross-area Booking” สามารถรองรับการซื้อขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์ ลดข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้แก่คู่ค้า และ 3. พร้อมยกระดับศักยภาพทีมงาน ttbDRIVE  เพื่อการทำงานในยุคดิจิทัล ผ่าน DRIVE Academy โรงเรียนสินเชื่อรถยนต์ ttb เพื่อจะฝึกทีมงาน DRIVE หลักสูตรที่เข้มข้น เพื่อสร้างบริการที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้าทุกราย

นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า เป้าหมายของธนาคาร คือ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอี ผ่าน 3 โซลูชัน ได้แก่ 1. มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ 2. มอบโซลูชันและบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ ด้วย “ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ทีทีบี บิสซิเนสวัน (ttb business one)”และ 3. มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า ด้วย “บริการการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)”

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า หลังจากนี้เหลือเวลาอีกเพียง 55วัน กับก้าวสำคัญสุดท้ายของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564  โดยประมาณกลางเดือนนี้ลูกค้าของธนชาตจะได้รับจดหมายแจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับ บัญชีเงินฝาก  บัญชีกองทุนและ บัญชีประกัน  ทั้ง 3ผลิตภัณฑ์จะมีการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชี  แต่หากลูกค้าที่มีโมบายแบงก์กิ้งอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนเลขบัญชีเพียงสแกนQR Code ดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนสมุดบัญชีสามารถติดต่อธนาคารภายหลังจากวันที่ 5 กรกฎาค2564  

          ทั้งนี้ ภายใต้แนวทาง One Dream, One Team, One Goalกับก้าวสำคัญของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นสุดท้าย เพื่อขับเคลื่อนธนาคารใหม่ที่จะช่วยให้คนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น