พาณิชย์ แนะชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว เพิ่มรายได้ ราคาดีมีตลาดรองรับ

06 มี.ค. 2568 | 18:25 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2568 | 18:30 น.

รมว.พาณิชย์ ปิ๊งไอเดียแก้ปัญหาข้าวราคาต่ำ แนะเปลี่ยนเพาะปลูกไปสู่พืชที่มีมูลค่าสูงขึ้น ชูปลูกกล้วยแทนข้าว เพิ่มรายได้ พร้อมยืนยันช่วยเหลือเกษตรกร เตรียมสรุปมาตรการช่วยเหลือชาวนาชงครม.

วันนี้ (6 มีนาคม 2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้ของนายณรงเดช อุฬารกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวและการส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรไทย

นายพิชัย ระบุว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือชาวนา รัฐบาลจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ โดยราคาข้าวในตลาดที่อยู่ระหว่าง 8,500 – 8,800 บาทต่อตัน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้รวมเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชาวนาส่วนใหญ่พึงพอใจ

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดของมาตรการ คาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยต้องขอความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อให้แนวทางช่วยเหลือครอบคลุมทุกมิติ

สำหรับการขยายตลาดข้าวเป็นเรื่องสำคัญ โดยสัปดาห์หน้าจะหารือกับ เอกอัครราชทูตจีน เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไปจีนให้เพิ่มขึ้น พร้อมเร่งเจรจาในตลาด แอฟริกาและอินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะกลับมาซื้อข้าวไทย แม้ว่าขณะนี้จะยังชะลอการนำเข้าสำหรับปัญหาการแข่งขันด้านราคากับ อินเดียและเวียดนาม ไทยอยู่ระหว่างหารือร่วมกันเพื่อลดการแข่งขันที่รุนแรงเกินไป หวังสร้างสมดุลราคาข้าวในตลาดโลก และช่วยให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่มั่นคง

นอกจากนี้ ยังมีแนวทางกระจายผลผลิตข้าวผ่านโมเดิร์นเทรด และผลิตข้าวถุงเพื่อดึงซัพพลายออกจากตลาด ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำ โดยคาดว่าผลผลิตข้าวจะเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้นช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้

 

พาณิชย์ แนะชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว เพิ่มรายได้ ราคาดีมีตลาดรองรับ

 

ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ ยังเดินหน้าผลักดันส่งออกกล้วย หลังพบว่าญี่ปุ่นมีความต้องการนำเข้ากล้วยสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี แต่ไทยสามารถส่งออกได้เพียง 2,000 - 3,000 ตัน จากโควตาทั้งหมด 8,000 ตัน โดยขณะนี้มีการทดลองปลูกกล้วยในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว 150,000 ต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่เพาะปลูก 

โดยคาดว่าหากดำเนินการสำเร็จ เกษตรกรไทยจะมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 100,000 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวนาและเกษตรกรที่ต้องการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกไปสู่พืชที่มีมูลค่าสูงขึ้น

นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทย และกำลังดำเนินการทั้งมาตรการระยะสั้น เช่น การพยุงราคาข้าว และมาตรการระยะยาว เช่น การขยายตลาดและส่งเสริมพืชเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน 

พร้อมเชิญชวนเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ให้ลงทะเบียนปลูกข้าวนาปรังก่อนวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้ เพื่อรับเงินสนับสนุนตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว