นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESG EXTRA ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 แสนบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็น
“นักลงทุนที่ถือ LTF อยู่ สามารถเลือกได้ว่าจะย้ายกองทุนมาที่ Thai ESG EXTRA หรือไม่ โดยหากย้ายกองมาก็จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะต้องย้ายวงเงินการลงทุนมาทั้งหมด”
ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ตนจะมีการเรียกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาหารือถึงการสร้างความยั่งยืนของ ESG และให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาช่วยกันปรับตัว และกลุ่มบริษัท SET 50-100 ก็จะลงไปดูรายละเอียดว่าควรปรับอย่างไรให้ธุรกิจเดินหน้าสู่ ESG เป็นหนึ่งในมาตรการรัฐจะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการออกกฎหมาย พ.ร.ก. ให้อำนาจก.ล.ต. มีอำนาจสอบสวนคดีอาญา เพื่อดูแลเรื่องเร่งด่วน และดูแลนักลงทุนรายย่อย คาดว่าจะได้ข้อสรุป ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอครม.อนุมัติต่อไป
นายพิชัย กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในตลาดหุ้นทั่วโลกถือว่ามีความผันผวนมากจากนโยบายของโดนัลก์ ทรัมป์ที่มีการปรับขึ้นภาษีกับคู่ค้า ล่าสุด ในสหรัฐฯตลาดหุ้นก็ลดลงมากทั้งดัชนี Nasdaq และดาวน์โจนส์ ส่วนดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงโดยหุ้นไทยเคยลงมาอยู่ในระดับต่ำประมาณ 1,200 จุด ตอนนั้นเราทำกองทุนวายุกภักษ์ก็สามารถดึงดัชนีขึ้นไปได้ที่ประมาณ 1,400 จุดก่อนจะปรับลดลงมาที่ระดับ 1,200 จุด และได้รับผลกระทบจากข่าวสารภายนอก
ทั้งนี้รัฐบาลมีแนวคิดว่าในกองทุน ESG มีการเลือกหุ้นที่ดีมีอนาคต การเติบโตที่ยั่งยืน และมีการลงทุนในเทคโนโลยี ซึ่งถือว่ามีโอกาสเติบโตในอนาคต เมื่อมีความชัดเจนเรื่องนโยบายนี้ก็เชื่อว่าจะสามารถชะลอแรงขายของดัชนีหุ้นลงได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 14.00 น. โฆษกกระทรวงการคลังพร้อมด้วยผู้แทนกลต. แถลงข่าวเรื่อง ltf ตามมติครม. ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดได้อีกครั้ง