“เผ่าภูมิ” ตรวจเยี่ยมโรงงานรถยนต์ ก่อนปรับโครงสร้างภาษี PHEV

28 ก.พ. 2568 | 13:45 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2568 | 13:49 น.

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง นำทัพสรรพสามิต ลงพื้นที่โรงงานรถยนต์ BMW-BYD เตรียมพร้อมปรับโครงสร้างภาษี PHEV เริ่ม 1 ม.ค.69

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตนและกรมสรรพสามิต ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ราย บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ณ จังหวัดระยอง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมตามมาตรการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงานแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569

โดยเป็นการสนับสนุนและพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงขึ้นของรถยนต์ประเภท PHEV ให้สอดคล้องกับหลักสากลและเพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ประเภท PHEV ตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ PHEV จะถูกจัดอยู่ในพิกัดอัตราภาษีเดียวกับ Hybrid Electric Vehicle (HEV) โดยอัตราภาษีจะพิจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป กรมสรรพสามิตได้กำหนดพิกัดอัตราภาษี PHEV และ HEV แยกจากกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถยนต์ประเภท PHEV ที่มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และมีขนาดถังน้ำมันไม่เกิน 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 5

2. รถยนต์ประเภท PHEV มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง หรือมีขนาดถังน้ำมันมากกว่า 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 10

“เผ่าภูมิ” ตรวจเยี่ยมโรงงานรถยนต์ ก่อนปรับโครงสร้างภาษี PHEV

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการทบทวนเกณฑ์การกำหนดอัตราภาษี PHEV ดังกล่าว โดยจะพิจารณาจากระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า (Electric Range) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพียงเกณฑ์เดียวเท่านั้น เพื่อส่งเสริมมีการพัฒนารถยนต์ประเภท PHEV ที่จำหน่ายในประเทศไทยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น 

“การมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีในการเพิ่มระยะวิ่งด้วยไฟฟ้า เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อย CO2  รวมทั้งตอบสนองต่อความต้องการใช้รถยนต์ PHEV ที่สามารถใช้การวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าในเขตตัวเมือง และใช้การวิ่งด้วยพลังงานผสมในการเดินทางระหว่างเมือง”

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยการกำหนดระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ดังกล่าว  เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการพัฒนารถยนต์ PHEV ตามหลักสากล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและต่อยอดให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์   ประเภท PHEV ที่มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประเภทสันดาปภายในไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

“เผ่าภูมิ” ตรวจเยี่ยมโรงงานรถยนต์ ก่อนปรับโครงสร้างภาษี PHEV

“การปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยลดข้อกำหนดของขนาดถังน้ำมันในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดถังน้ำมันในรถยนต์ที่ผ่านการทดสอบแบบรุ่นที่ได้รับมาตรฐานในระดับสากลมาแล้วให้ลดลงจากเดิม  ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมต้องทำการทดสอบความปลอดภัยเฉพาะรุ่นที่ผลิตในประเทศไทยใหม่อีกด้วย”