นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กรณีปัญหาการจราจรในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดของไทยและเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์หลักของอาเซียน ภายใต้การกำกับดูแลของ กทท. นั้น
ทั้งนี้มีเอกชนรับสัมปทานเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการประกอบการท่าเทียบเรือจำนวน 18 ท่าเทียบเรือ มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่า ณ ปัจจุบันกว่า 9,400,000 ทีอียู ต่อปี และมีปริมาณรถบรรทุกผ่านเข้า-ออกมากกว่าปีละ 6,000,000 คัน ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณรถบรรทุกหนาแน่นเกินขีดจำกัดและเกิดปัญหาการจราจรแออัดในพื้นที่
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า กทท. ได้ประสานการทำงานร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการ กรณีผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกในเขตท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย
ส่วนกรณีพบส่วยแซงคิวนั้น กทท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา วางแนวทางและมาตรการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดังนี้
1. เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุอย่างเร่งด่วน โดยสั่งการให้ท่าเรือแหลมฉบังตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของการจราจรติดขัด เช่น ปัญหาจากระบบบริหารจัดการคิว การขนส่งที่หนาแน่นเกินไปในช่วงเวลาเดียวกัน หรือปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การซ่อมถนนในเขตท่าเรือ
2. จัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจรของท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ได้จัดประชุมร่วมกับผู้ประกอบการขนส่ง สมาคมขนส่งสินค้า และคนขับรถบรรทุกด้วย เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ รวมถึงการหารือกับผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีการขนส่งในช่วงเวลากลางวัน – เย็น ทำให้เกิดการกระจุกตัวเฉพาะบางช่วง ส่งผลให้มีรถบรรทุกเข้าท่าเรือมากเกินไปและติดขัดหนักมาก ซึ่งควรมีการพิจารณาการกระจายเวลาขนส่งในช่วงเวลาอื่นๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้น
3.ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการจัดการคิวรถบรรทุก (Truck Queue) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ครอบคลุมการใช้งานกับผู้ประกอบการขนส่งทุกราย รวมถึงการดำเนินการจัดหาที่จอดรถบรรทุก (Truck Parking) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ในบริเวณภายนอกเขตรั้วศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเพิ่มศักยภาพพื้นที่จอดคอยให้รถบรรทุกที่มาจอดรอคิวเข้าท่าเทียบเรือ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดของท่าเรือแหลมฉบังและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการระหว่างรอคิวด้วย
4. ปราบปรามการเรียกเก็บส่วยแซงคิว โดยได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเรียกเก็บส่วยดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี รองผู้อำนวยการ กทท. สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ เป็นประธานกรรมการ