ไทยส่งออกผลไม้อบแห้งไปจีน พุ่ง คาดปี 71 มูลค่าตลาดทะลุ 3.3 แสนล้านหยวน
พาณิชย์ เผยตลาดผลไม้อบแห้งในจีนกำลังบูม ช่วง 10 เดือนปี 67 ไทยส่งออกอันดับ 1 มูลค่า 125.64 ล้านดอลลาร์ คาดการณ์ ปี 71 มูลค่าตลาดจะพุ่งสูงถึง 335,300 ล้านหยวน แนะผู้ประกอบการไทยรับเทรนด์ผู้บริโภคจีน เน้นขายสินค้าที่มีนวัตกรรม คุณภาพ มาตรฐาน
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่
ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงแนวโน้มและความสนใจในการบริโภคผลไม้อบแห้งและแช่อิ่มของชาวจีน และโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าผลไม้อบแห้งของไทยเข้าสู่ตลาดจีน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนที่นิยมผลไม้อบแห้งจากไทยเพิ่มมากขึ้น
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า สำนักวิจัย iiMedia Research ได้ทำการศึกษาตลาดผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งและผลไม้แช่อิ่มในจีน พบว่า มูลค่าตลาดในปี 2566 อยู่ที่ 146,200 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 32.6% และคาดว่า ปี 2571 จะมีมูลค่าสูงถึง 335,300 ล้านหยวน
ทั้งนี้ปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ คือ คุณสมบัติด้านสุขภาพและโภชนาการ มีสัดส่วนสูงถึง 82% และ 80.6% ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ อาทิ ไม่มีสารเติมแต่ง น้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำ และนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ 81.4% และออฟไลน์ 77.6%
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ผลิตหลายราย ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งแบบผสมผสาน และได้กลายเป็นจุดขายใหม่ในตลาด เช่น แบรนด์จ้าวเหริน พัฒนาพาย โยเกิร์ตกราโนล่าผสมผลไม้อบแห้ง และลูกพลับสอดไส้เนยซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภค และมีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพิ่มขึ้น
สำหรับการนำเข้าผลไม้อบแห้งของจีน ในช่วง 10 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-ต.ค.) พบว่า นำเข้าจากไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง มีมูลค่า 125.64 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.22% และมีการนำเข้าจากประเทศหลักอื่น ๆ อาทิ ชิลี เวียดนาม สหรัฐฯ และฝรั่งเศส
“ตลาดผลไม้อบแห้งในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมธรรมชาติและแคลอรี่ต่ำ และยังมีเรื่องนวัตกรรม และ ปัจจุบันจีนนำเข้าผลไม้อบแห้งจากไทยเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนถึงความนิยมและความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าจากไทย
ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ส่งออก จะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและรักษาคุณภาพสินค้า พร้อมกับสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งนี้ในระยะยาว” นางสาวสุนันทา กล่าว