พาณิชย์ ตั้งชุดเฉพาะกิจ ปูพรมปราบธุรกิจนอมินี คุมเข้มสินค้าเถื่อนตปท.

13 ก.พ. 2568 | 16:37 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2568 | 16:42 น.

พาณิชย์ นัดถกคณะอนุกรรมการฯ ลุยปรายสินค้าไร้มาตรฐานต่างประเทศ และธุรกิจนอมินี ตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจลงพื้นที่จัดการผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย คุมเข้มทั้งออนไลน์และออฟไลน์

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ได้หารือร่วมกันถึงปัญหาการนำเข้าสินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐานจากต่างประเทศ และธุรกิจนอมินี โดยรับทราบข้อเสนอของทางภาคเอกชน และจะรวบรวมข้อมูลเสนอให้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย พิจารณาต่อไป 

 

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอไปดำเนินการทั้งในด้านการเข้มงวดกฎหมายสำหรับมาตรฐานสินค้าและการนำเข้าสินค้า การสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภคถึงการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ และการสร้างศักยภาพทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในด้านต่างๆ 

ขณะเดียวกันจะจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและป้องปรามธุรกิจนอมินีอย่างเข้มข้นและเด็ดขาดไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้รับข้อเสนอด้านการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเด็น ดังนี้

 

พาณิชย์ ตั้งชุดเฉพาะกิจ ปูพรมปราบธุรกิจนอมินี คุมเข้มสินค้าเถื่อนตปท.

 

1. ด้านมาตรฐานสินค้าและการดำเนินธุรกิจ โดยขอให้ภาครัฐเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎหมายฉลากสินค้าและมาตรฐาน การกำกับดูแลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และพิจารณามาตรการสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศ ด้านการขยายอายุใบอนุญาต การพัฒนาห้องทดสอบในประเทศ และการใช้กลไก Standard Developing Organizations (SDOs) 

2. ด้านมาตรการทางการค้า ทั้งการอำนวยความสะดวกการเข้าถึงมาตรการตอบโต้ทางการค้า และทบทวนอัตราภาษี

3. ด้านพิธีการศุลกากรและช่องทางการนำเข้าโดยขอให้เข้มงวดกับการกำกับดูแลสินค้านำเข้า 

4. ด้านการส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะการพิจารณาสิทธิประโยชน์ทางภาษี การปรับเพิ่มแต้มต่อการจัดซื้อจัดจ้าง และขยายตลาดให้ภาคเอกชน นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอจากภาคเอกชนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนับสนุนให้มีการติดฉลากสินค้าเสื้อผ้าเด็กทั้งสินค้าในประเทศและสินค้านำเข้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วย 

สำหรับข้อเสนอจากภาคเอกชนประเด็นการติดฉลากเสื้อผ้าเด็กเพื่อความปลอดภัยและคุ้มครองผู้บริโภคจากความเสี่ยงด้านการสวมใส่เสื้อผ้าที่อาจระคายเคืองได้ กระทรวงฯ ขอให้ผู้ประกอบการไทยติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดถึงแนวทางการปรับตัว เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดำเนินการโดยคำนึงถึงผู้บริโภคและผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยเป็นสำคัญ 

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังได้เห็นชอบแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อร่วมกันกำกับดูแลการจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ถูกต้องต่อไป

 

พาณิชย์ ตั้งชุดเฉพาะกิจ ปูพรมปราบธุรกิจนอมินี คุมเข้มสินค้าเถื่อนตปท.

 

“การประชุมในวันนี้ถือเป็นนัดแรกในปี 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของหน่วยงานต่าง ๆ ต่อการแก้ไขปัญหาสินค้าไม่มีคุณภาพมาตรฐาน รวมถึงการที่ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะถือเป็นความเห็นสำคัญที่จะทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะรวบรวมแนวทางการดำเนินการและเสนอต่อคณะกรรมการบริหารฯ พิจารณาต่อไป” 

พร้อมกันนี้จะผลักดันความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อกำกับดูแลการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ให้มีคุณภาพมาตรฐานด้วย ดังนั้น จึงอยากขอให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการชาวไทยไว้วางใจว่าภาครัฐกำลังดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐานดังกล่าว รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทยด้วย