ธนารักษ์รื้อราคาประเมินที่ดินใหม่ ดึงเทคโนโลยีมาใช้ เริ่มปี 70

16 ก.พ. 2568 | 18:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2568 | 18:27 น.
679

ธนารักษ์ดึงเทคโนโลยี ยกระดับราคาประเมินที่ดินใหม่ เริ่มใช้ปี 70 หนุนใกล้เคียงความเป็นจริง เล็งทำแผนแม่บท พัฒนาที่ราชพัสดุ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมเตรียมนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้ยกระดับการจัดการทรัพย์สินของกรม ทั้งที่ราชพัสดุ เหรียญกษาปณ์ รวมทั้งการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยในมิติเศรษฐกิจ และสังคม 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์

สำหรับการประเมินที่ดินนั้น กรมธนารักษ์ จะทำทุกๆ 4 ปี โดยรอบถัดไป จะเป็นปี 2570 จะใช้เทคโนโลยี อาทิ ดาวเทียม ใช้สำรวจที่ดินโดยละเอียด ในระดับแปลง ตัวอย่าง เช่น เจ้าของที่บางรายอาจจะมีปัญหา ทำไมที่ดินตาบอดราคาแพง หรือปัญหามีที่ทำเลดี แต่ขายได้ราคาต่ำกว่าตลาด ซึ่งการยกระดับนี้จะทำให้ราคาประเมินที่ดินใกล้เคียงราคาตลาดมากยิ่งขึ้น 

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการประเมินราคาที่ดิน เช่น เวลาประเมินที่ดินเพื่อค้ำประกันเงินกู้ ปกติสถาบันการเงินจะใช้วิธีจ้างบริษัทประเมินราคา 3 เจ้า แล้วนำราคามาเทียบกัน ให้ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด ฉะนั้น ถ้าราคาประเมินของธนารักษ์ มีความใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้นก็จะทำให้ประชาชนและสถาบันการเงินนำไปใช้อ้างอิงได้จริง

"ที่ผ่านราคาประเมินที่ดินของธนารักษ์ค่อนข้างต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้คนส่วนใหญ่ ไม่นำไปอ้างอิง เวลาขาย หรือใช้เป็นราคาหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้ง ราคาที่ดินใหม่จะทำเป็นรายแปลงทั้งหมด รวมทั้งอนาคตจะเชื่อมข้อมูลกับกรมที่ดินต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลการแบ่งแปลงที่ดิน เรียลไทม์มากขึ้น"

นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ จะทำแผนแม่บท เพื่อพัฒนาที่ราชพัสดุ เพื่อนำที่ดินมาใช้ ประโยชน์ให้เหมาะสม เช่น ทำพิพิธภัณฑ์ หรือให้เช่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพย์สินได้อย่างคุ้มค่า รวมถึงยกระดับเหรียญกษาปณ์ให้เป็นเหรียญที่ระลึก  ซึ่งเหรียญกษาปณ์บางรุ่นเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักสะสม ทั้งในและต่างประเทศ 

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 กรมมีเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ ตามเอกสารงบประมาณที่ 10,600 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากปีที่แล้วเล็กน้อย การใช้เทคโนโลยียกระดับทรัพย์สินนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มเรื่องรายได้ และพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เชื่อว่ากรมจัดเก็บรายได้เข้าเป้าหมายแน่นอน