นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จัดพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ อาคารอเนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการบึงบอระเพ็ด อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ซึ่งได้รับเกียรติจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ราษฎรจึงให้กรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังที่มีภารกิจหน้าที่ปกครอง ดูแล และบำรุงรักษาที่ราชพัสดุ นำที่ราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการมาสนับสนุนการดำเนินโครงการของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ประชาชน
โดยจัดให้ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ เช่าที่ราชพัสดุในอัตราผ่อนปรนผ่านกลไกการจัดให้เช่าของกรมธนารักษ์ตามกฎหมายที่ราชพัสดุส่งผลให้ราษฎรที่ยินยอมเช่าที่ราชพัสดุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนทั้งด้านสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ สร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมให้กับราษฎร
นายเอกนิติ กล่าวว่า ในครั้งนี้กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน นว.339 (บึงบอระเพ็ด) อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1,081 ราย
ทั้งนี้ ประกอบด้วย
สำหรับโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม
“ในปี พ.ศ. 2568 รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินภายใต้โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 5,055 สัญญา ซึ่งคาดว่าจะสร้าง
ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้ท้องถิ่นได้มากขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีความยั่งยืนต่อไป”