“ทรัมป์ 2.0” ยังมีโอกาสส่งออก “EXIM BANK” เปิดสินค้าเสี่ยงโดนกระทบ

13 ก.พ. 2568 | 14:30 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2568 | 14:33 น.

EXIM BANK ชี้ยุคทรัมป์ 2.0 ยังเป็นโอกาสไทยส่งออกโต 3% ชิงสินค้าทดแทน-เปิดตลาดใหม่ เปิดสินค้าเสี่ยงโดนผลกระทบ

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ไม่แน่นอน ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า ยุคทรัมป์ 2.0 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะยังไปต่อได้  

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

โดยเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 2568 คาดว่า จะเติบโตที่ 3%  มีปัจจัยเกื้อหนุน คือ การท่องเที่ยว การใช้จ่ายของภาครัฐ การบริโภค การลงทุน และการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง 

สำหรับการส่งออก คาดเติบโตได้ 3% มีปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ โอกาสส่งออกของไทยทดแทนสินค้าจีน อาทิ คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ แผงโซลาร์ และสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก เช่น สินค้าเกษตร อาหาร และไลฟ์สไตล์ เป็นต้น รวมทั้ง การย้ายฐานการผลิตจากต่างชาติเข้ามาในไทย เช่น ธุรกิจดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า 

นอกจากนี้ ยังมีการขยายตัวของตลาดใหม่ เช่น อินเดีย อาเซียน และตะวันออกกลาง และการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) เป็นข้อตกลงเอฟทีเอ ฉบับแรกระหว่างไทยกับประเทศในยุโรป คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ได้แก่ สินค้าไทยอาจโดนมาตรการจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่เกินดุลกับสหรัฐฯ สูง เช่น คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ โทรศัพท์ เครื่องจักร หรือถูกบังคับให้นำเข้าเพิ่ม อาทิ สินค้าเกษตร น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 

ขณะเดียวกัน ยังมีสินค้าไทยที่อยู่ในซับพลายเชนจีนได้รับผลกระทบ อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ ยางพารา และ สินค้าไทยอาจต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคากับสินค้าจีนที่ไหลทะลักเข้าสู่ไทยและตลาดโลก อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็ก อะลูมิเนียม เคมีภัณฑ์ ความผันผวนด้านต้นทุนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และค่าเงินที่ยังผันผวนสูงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ค่าเงินบาท ขยับขึ้นและขยับลง อยู่ในช่วง 9 บาท 

นายรักษ์ กล่าวว่า ยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกยังทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อมนุษย์ รวมถึงภาคธุรกิจ อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น รวมถึงค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5  ประเมินว่าเม็ดเงินสีเขียวของโลกในปี 2566 อยู่ที่ราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ยังต่ำกว่าความต้องการที่ประเมินว่าสูงถึงราว 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพราะฉะนั้น โลกยังต้องการ เม็ดเงินสีเขียว เพิ่มขึ้นราว 5 เท่า 

สำหรับปี 2568 EXIM BANK มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจไทยผ่านความเชี่ยวชาญและพันธมิตรสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน  โดยจะเร่งขยายฐานลูกค้าผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งด้านการสนับสนุนการส่งออกและการลงทุน เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานส่งออกสีเขียว โดยให้สิทธิประโยชน์และดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงอีเอสจีบริการใหม่ เช่น บริการค้ำประกันหุ้นกู้ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ แต่ยังมี เครดิต เรทติ้งที่ไม่สูงพอที่จะทำให้ผู้ลงทุนสนใจและเชื่อมั่นที่จะลงทุนและทำให้อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงสามารถมีฐานผู้ลงทุนเป็นกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันได้