วันที่ 31 มกราคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นประธานแถลงข่าว การดำเนินมาตรการ “การยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking” ว่า สำหรับมาตรการใหม่นี้กำหนดให้ชื่อเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ต้องตรงกับชื่อผู้ใช้บัญชี Mobile Banking เพื่อป้องกันการใช้บัญชีม้าทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยผลการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์กว่า 120 ล้านบัญชีพบว่า
• กลุ่ม M (ชื่อซิมตรงกับ Mobile Banking) 75.8 ล้านหมายเลข (63.02%)
• กลุ่ม N (ชื่อซิมไม่ตรงกับ Mobile Banking) 30.9 ล้านหมายเลข (25.68%)
• กลุ่ม P (ไม่พบชื่อเจ้าของซิม) 13.5 ล้านหมายเลข (11.29%)
" 30 ล้านเบอร์ที่เบอร์บัญชีไม่ตรงกับมือถือต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยจะแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่นเท่านั้นไม่ส่ง SMS แนบลิงค์ผ่านมือถือ" นายประเสิรฐ กล่าว
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ธนาคารจะเริ่มแจ้งเตือนลูกค้าในกลุ่ม N และ P ผ่าน Mobile Banking ให้ดำเนินการอัปเดตข้อมูลภายใน 90 วัน (สิ้นสุด 30 เมษายน 2568) โดยมีแนวทางดังนี้
กลุ่ม N (ชื่อซิมไม่ตรงกับบัญชี Mobile Banking)
กลุ่ม P (ไม่พบข้อมูลเจ้าของซิม)
• ต้องลงทะเบียนซิมใหม่ หรือปรับปรุงข้อมูลที่ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ
มาตรการนี้มีข้อยกเว้นสำหรับบุคคลบางกลุ่ม เช่น
ด้านนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเฟสแรกที่ ปปง.พบว่ามีความเสี่ยงสูงเปิดบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 -2567 เป็นบัญชีม้าที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 2.3 ล้านราย กลุ่มนี้จะเร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องหากยังไม่แก้ไขข้อมูลถูกระงับโมบายแบงก์กิ้ง
“บัญชีม้าดำที่ ปปง.ตรวจสอบเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ได้ปิดบัญชีม้าไปแล้ว 7 หมื่นบัญชีก มีเงินคงค้าง 2,000 ล้านบาท บัญชีม้าดำ 99% เป็นคนไทย”.