นายกฯ ขอกู้ ADB หลักพันล้าน ให้แบงก์รัฐปล่อยต่อลูกค้าดอกเบี้ยต่ำ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ส่งคำขอการกู้เงินจากธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชีย หรือ ADB โดยประเภทของการกู้เงินจะเป็นลักษณะสินเชื่อสีเขียวที่เรียกว่า 2 Step Loan 

ทั้งนี้ กล่าวคือ เป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำมาให้แบงก์รัฐนำไปปล่อยกู้ต่อให้แก่ลูกค้าของธนาคาร ซึ่งการปล่อยกู้ต่อให้แก่ลูกค้าจะต้องเป็นกรีนโลนที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการให้เงินกู้ของ ADB

สำหรับการยื่นคำขอการกู้เงินจาก ADB นั้น เกิดขึ้นเมื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศจีนและได้พบกับ President ของ ADB  เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยได้เจรจาขอใช้เงินกู้ดังกล่าว เพื่อให้แบงก์รัฐได้มีต้นทุนการกู้เงินที่นำไปปล่อยกู้ต่อให้แก่ลูกค้ารายย่อยได้ในอัตราต่ำ หลังจากนั้น กระทรวงการคลังก็ได้ทำหนังสือถึง ADB เพื่อยื่นเรื่องขอกู้เงินดังกล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า วงเงินที่ขอกู้จะอยู่ในหลักหลายพันล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาของการกู้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เบื้องต้น เงินกู้ดังกล่าวจะนำมาให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ปล่อยกู้ต่อให้แบงก์รัฐแห่งอื่น เพื่อนำเงินไปปล่อยกู้ต่อให้แก่ลูกค้า

“เราคิดว่า เงินกู้ก้อนนี้ จะโยนมาที่ธ.ก.ส.เป็นหลัก อัตราดอกเบี้ยที่จะนำไปปล่อยกู้ต่อ จะต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 50 สตางค์ แต่แนวคิดการปล่อยกู้ต้องเป็นวัตถุประสงค์ผู้ให้กู้ คือ เป็นกรีนโลน คาดว่า จะได้เงินกู้ภายในไม่กี่เดือนนี้ และยืนยันว่า จะไม่กระทบต่อฐานะการคลัง เพื่อเป็นวงเงินที่ไม่สูงมาก”

ส่วนการปล่อยสินเชื่อภาคเกษตรนั้น ธ.ก.ส.ยังเป็นกลไกหลักในการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าธนาคารแห่งอื่นจะเข้ามาเล่นในตลาดเดียวกันหมดแล้ว แต่ในระดับของเกษตรกรรายย่อย จะเป็นลูกค้าแบงก์อื่นน้อย และผู้ประกอบการด้านการแปรรูปต่างๆ ก็ไปแบงก์อื่นไม่ค่อยได้ ดังนั้น ธ.ก.ส.จึงเป็นกลไกของรัฐที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนตรงนี้