รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 โดยปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย เพิ่มเติมวัตถุประสงค์และอำนาจการดำเนินกิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
พร้อมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจของคณะกรรมการ กทท. ให้มีความเหมาะสม ปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของประธานกรรมการ กรรมการ และผู้ว่าการ กทท. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งผู้บริหารองค์กรจากผู้อำนวยการเป็นผู้ว่าการ กทท.
สำหรับเรื่องสำคัญภายใต้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม (ร่างมาตรา 3)
คำว่า “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจอื่น (เดิม “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย) ยกเลิกคำว่า “ผู้อำนวยการ” ในพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 และแก้ไขเป็นคำว่า “ผู้ว่าการ” ทุกแห่งเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อตำแหน่ง
แก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมาย (ร่างมาตรา 7)
โดยกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (เดิม รมว.คลังเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกับรมว.คมนาคม) เนื่องจากการดำเนินกิจการของ กทท. อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมส่วนกระทรวงการคลังได้เปลี่ยนไปกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในภาพรวมผ่านทางกลไกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของ กทท. โดยขยายวัตถุประสงค์ (ร่างมาตรา 8 (3)
จากเดิม “ดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าเรือ” เป็นให้ “ดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการประกอบกิจการท่าเรือเพื่อประโยชน์แก่ กทท.”
(เป็นการปรับปรุงถ้อยคำให้สอดคล้องกับบริบทและตรงตามอำนาจของ กทท. เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวเกี่ยวกับอำนาจของ กทท. ซึ่งจะทำให้สามารถประกอบกิจการท่าเรือ ธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือ อู่เรือ และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องหรือเป็นส่วนประกอบกับท่าเรือ รองรับการดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ กทท. ได้)
ทั้งนี้ยังให้ กทท. มีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ของ กทท. โดยแก้ไขเพิ่มเติมให้รวมถึงอำนาจกระทำกิจการดังต่อไปนี้ (ร่างมาตรา 9) เช่น
1.เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถทำนิติกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การถือกรรมสิทธิ์ มีสิทธิครอบครอง มีทรัพยสิทธิ หรือเป็นการก่อตั้งสิทธิหรือกระทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์ได้
2.กำหนดให้ กทท. มีเฉพาะอำนาจเรียกเก็บค่าภาระการใช้ท่าเรือ บริการ และความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการท่าเรือ และค่าภาระต่าง ๆ ภายในอาณาบริเวณ
(เดิม ให้ กทท. มีอำนาจกำหนดอัตราค่าภาระการใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการท่าเรือ และออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีชำระค่าภาระดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมการฯ จะเป็นผู้มีอำนาจกำหนดอัตราค่าภาระดังกล่าวภายในอัตราขั้นสูงและขั้นต่ำที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามมาตรา 29 (5) แห่งพระราชบัญญัติการท่าเรือฯ มีใช่ กทท.)
3.กำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยเกี่ยวกับการใช้ท่าเรือ การให้บริการและความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการท่าเรือ รวมทั้ง การจัดการเกี่ยวกับการสาธารณสุขและคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาณาบริเวณ
(เพิ่มเติมให้ครอบคลุมถึงการจัดการเกี่ยวกับการสาธารณสุขและคุณภาพสิ่งแวดล้อม เดิม กำหนดเพียงการจัดระเบียบว่าด้วยความปลอดภัย การใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการท่าเรือ)
4.เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถออกพันธบัตรหรือตราสารเพื่อใช้ในการดำเนินการที่เป็นประโยชน์แก่กิจการของ กทท. ได้ ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการทำกิจการในบางกรณีอาจมิใช่การลงทุน
(ได้ปรับถ้อยคำเพิ่มเติม จาก เดิม ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใด เพื่อการลงทุนเท่านั้น เพื่อให้การดำเนินกิจการของการทำเรือฯ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้สามารถรองรับการประกอบธุรกิจตามกรอบยุทธศาสตร์ของการท่าเรือฯ และรองรับการดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของการท่าเรือฯ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย หรือ Smart Community)
5.เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ทั้งในและนอกราชอาณาจักร เพื่อประกอบธุรกิจกับหรือเกี่ยวเนื่องในกิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งในราชอาณาจักรจะมีคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นไม่ได้
(เพิ่มเติมถ้อยคำ “ทั้งในและนอกราชอาณาจักร” เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น จะได้ไม่ต้องมีการตีความ จากเดิม ให้ กทท. สามารถจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด)
6. เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถลงทุนหรือเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดทั้งในและนอกราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(เดิม กทท. สามารถเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเพิ่มเติมถ้อยคำ “ทั้งในและนอกราชอาณาจักร” เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น จะได้ไม่ต้องมีการตีความ)
7. เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถเช่าหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ กทท. ตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะควบคู่ไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันกรอบยุทธศาสตร์ของการท่าเรือฯ มีการกำหนด กลยุทธ์ในการจัดทำโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย หรือ Smart Community ที่ต้องมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของการท่าเรือฯ จึงต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนนี้ (เดิม ไม่กำหนด)
8. เพิ่มเติมให้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ของ กทท. ให้ กทท. จัดทำแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นแผนแม่บทสำหรับการดำเนินการ โดยแสดงถึงเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ กทท. และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ (ร่างมาตรา 27)
9. เพิ่มเติมให้ กทท. สามารถกระทำการอย่างอื่นที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการจัดการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการรองรับการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ กทท. ที่อาจมีเพิ่มเติมได้ในอนาคต (เดิม ไม่ได้กำหนด)
นอกจากนี้ยังแก้ไขเพิ่มเติมให้การกำหนดเงินสำรอง สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในการดำเนินการ และให้การจะนำเงินสำรองดังกล่าวออกมาใช้ได้ก็แต่โดยมติของคณะกรรมการ (ร่างมาตรา 10)
(เป็นการกำหนดเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักการบัญชี และตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2548 ในการตั้งสำรองและเงินสำรองที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยคณะกรรมการการท่าเรือฯ เช่น เงินสำรองเพื่อขยายงานและลงทุน)