นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดโลก
รวมถึงสนับสนุน Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และขยายโอกาสในการจ้างงาน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการส่งออกของไทยเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยจากข้อมูลปี 2567 ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน ภาพรวมการส่งออกไทยมีมูลค่ารวมกว่า 9,695,454.6 ล้านบาท โดยขยายตัว 7.3% หรือคิดเป็นมูลค่า 275,763.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
กรมส่งเสริมการค้าฯ จึงนำ Prime Minister’s Export Award รางวัลจากรัฐบาล มาเป็นหนึ่งในกลไกในการกระตุ้นผู้ส่งออกไทย
นายพิชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการส่งออก โดยมุ่งเน้นนโยบายเศรษฐกิจเชิงรุกเพื่อขยายตลาดการค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ เช่น สหภาพยุโรป ประเทศในตะวันออกกลาง อินเดีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ ขณะเดียวกันยังคงรักษาและพัฒนาตลาดเดิม รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้าในภูมิภาคให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นโยบายด้านการค้า ของกระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะการเร่งเจรจาความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) เพื่อเปิดประตูการค้าใหม่ และปรับปรุงกระบวนการอนุมัติโครงการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดการลงทุนที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า และวางรากฐานเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเน้นนโยบายรดน้ำที่ราก โดยให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้บริโภค เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ด้วยการบริหารที่สมดุลและยั่งยืน สนับสนุนการทำงานเชิงรุกผ่านเครือข่ายพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับในปี 2567 รางวัล Prime Minister’s Export Award จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Forward and Beyond, The Power of Perfection: ก้าวล้ำสู่สากล สร้างพลังสู่ความสำเร็จ ผ่านการนำอัตลักษณ์ของรางวัลแต่ละประเภทมาลดทอนเพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบที่มากกว่า สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวทั้งคุณภาพและราคา และสนับสนุนการใช้ Soft Power เพื่อเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขันและความน่าเชื่อถือในตลาดโลก
โดยปี 67 มีผู้ประกอบที่ได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นใน 7 สาขา รวม 41 รางวัล 39 บริษัท 25 จังหวัดทั่วประเทศ จากผู้ยืนยันการสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 150 ราย
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำภาพลักษณ์สินค้าและบริการของไทยที่โดดเด่นในหลากหลายมิติ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานในระดับสากล
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลและยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ถึง 333 บริษัท รวม 879 รางวัล
“รางวัลดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการส่งออกของประเทศ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จที่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก”