ถอดสูตรลดค่าไฟเหลือ 3.70 แบบ “ทักษิณ ชินวัตร” เร่งรีดไขมันสิ้นเปลืองในระบบ

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการกล่าวปาฐกถางาน Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market ซึ่งจัดโดย “ข่าวหุ้น” วานนี้ (13 ม.ค.) โดยมีตอนหนึ่งระบุว่า ได้ไปปราศรัยเรื่องลดค่าไฟ 3.70 บาทต่อหน่วย ปรากฏว่าวันนี้ขานรับกันเต็ม เพราะแอบไปเห็นตัวเลขแล้วว่าทำได้ ลดตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย 

แต่ประชาชนยังไม่เข้าใจ ทำให้หุ้นพลังงานตกเป็นแถว ทั้งที่ความจริงไม่ได้กระทบอะไร แค่รีดไขมัน (Fat) เพราะมีหลายอย่างที่สิ้นเปลืองไปโดยใช่เหตุ แล้วไปบวกกับประชาชน 

โดยแนวทางดังกล่าวนี้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อาจจะกระทบนิดหน่อย เพราะมีค่าผ่านท่อ แต่ก็เต็มใจที่จะต้องลด เรื่องเงินส่งรัฐและอีกหลายอย่าง ซึ่งก็เป็นไปได้ที่ค่าไฟจะลดลง

ทั้งนี้ สามารถลดค่าไฟได้ 3.70 บาทต่อหน่วย ถือว่าขั้นต่ำ โดยได้เคยหารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอีกหลายท่าน ว่าวันนี้โซลาร์เซลล์ลงมาถึง 2 บาทต่อหน่วย แต่ไทยปั่นไฟฟ้าใช้แก๊สบ้าง ใช้ถ่านหินบ้าง แล้วไปคำนวณว่าโรงไฟฟ้าโรงไหนที่มีค่าใช้จ่ายเกินกว่า Green Energy ปิดดีกว่า หรือหยุดผลิตเอาไว้ แสตนบาย เพราะต้องการจะลดต้นทุนลงมา และดึงค่าเฉลี่ยของค่าไฟลงมา

อย่างไรก็ดี มองว่าเรื่องค่าไฟของประเทศต้องเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งสำหรับการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์ และศูนย์กลางทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอฮับ) ที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยการลงทุน ดาต้าเซ็นเตอร์ และเอไอฮับ ได้มีการมาหารือร่วมกันพูดคุยแล้ว กำลังตัดสินใจ ซึ่งจะมีการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่จะทำให้ไทยเป็นฮับได้

ปัจจุบันสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มองว่าดาต้าเซ็นเตอร์ และเอไอ คือโรงกลั่น ทั้งสองส่วนต้องทำคู่กัน ให้เอไอฮับมาอยู่ที่ไทย ล่าสุดได้หารือลงไปในเชิงลึกแล้ว โดยเอไอฮับ 1 ใช้ไฟฟ้ากว่า 1 กิกะวัตต์ ลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท เท่ากับครึ่งหนึ่งของปีงบประมาณ ก็จะเกี่ยวข้องกับค่าไฟที่จะต้องไม่แพง

”ในที่สุดเมื่อค่าไฟเหมือนพลังงานสีเขียวหมด ก็จะไม่ถึง 2 บาท เพราะทั่วโลกพูดกัน 6 เซ็นต์ ไทย 13 เซ็นต์ ซึ่งกำลังลดที่ 3.70 บาท คือการรีด Fat หรือก็คือการจำหน่ายต้นทุน 3 การไฟฟ้า ที่สูงเกินไป นอกจากนี้การที่องค์กรส่วนท้องถิ่นใช้ไฟฟรี เปิดไฟไว้ทั้งวันทั้งคืน ไม่ปิดไฟ ปิดไฟไม่เป็น อย่างนี้ต้องมีการแยกบิลให้“