ลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย เป็นนโยบายที่ออกมาจากปากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลก็รับลูกที่จะดำเนินการทำให้เป็นความจริงภายในปี 2568
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โดยบอดณ์ด กกพ. เองก็นำเสนอแนวทางที่จะช่วยลดค่าไฟลงได้ทันที 17 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้ภาคนโยบายทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการสนับสนุนทั้งในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder)
รวมถึง Feed in Tariff (FiT) หรืออัตรารับซื้อไฟฟ้าคงที่ตลอดอายุโครงการผ่านการอุดหนุนราคารับซื้อไฟฟ้าในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เพื่อให้การอุดหนุน Adder และ Feed in Tariff (FiT) สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
ล่าสุดนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เสนอมุมมองการบริหารทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มีประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ โดยระบุว่า ด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (ประเภทไม่มีเชื้อเพลิง )เหล่านั้น ถึงแม้จะหมดสัญญาแล้วก็ยังสามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดได้ต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศต้องการมากกว่าพลังงานฟอสซิล และ อาจจะดีกว่ามีการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ใหม่เพิ่มเติม
ดังนั้น จึงต้องการให้มีการเจรจาราคาค่าไฟฟ้ากันใหม่ ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากการมุ่งลดค่าใช้จ่าย ตามนโยบายภาครัฐสำหรับโรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน ที่เป็น SPP และ VSPP แล้ว
“หาก ทางภาคนโยบาย พิจารณาสั่งการมาดังกล่าว เชื่อว่าค่าไฟจะลงมาได้ ต่ำกว่า 3.70 บาท ต่อหน่วยในปีนี้ทันที”