ทำความรู้จัก “เอสอาร์ที แอสเสท” เจ้าภาพคิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย”

“การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท. 1 ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การดูของกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลกิจการด้านรถไฟ รวมทั้งขับเคลื่อนและพัฒนาระบบรางในไทยทั่วประเทศ ปัจจุบันมีทางรถไฟอยู่ภายใต้ขอบเขตดำเนินการทั้งหมด มี 4,044กิโลเมตร (กม.)

ที่ผ่านมาพบว่า “การรถไฟฯ” มีภารกิจที่ต้องดูแลหลายส่วน เช่น การพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 การพัฒนารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 การจัดซื้อขบวนรถไฟ รวมถึงการซ่อมบำรุงและรักษาขบวนรถไฟให้เกิดประสิทธิภาพ ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและค่าโดยสารในราคาถูก ฯลฯ

จากภารกิจของการรถไฟฯ นั้น ทำให้การพัฒนาที่ดินทั่วประเทศไม่สามารถบริหารสัญญาเพื่อใช้ประโยชน์ด้านพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้เต็มศักยภาพ ส่งผลให้การรถไฟฯมีแนวคิดจัดตั้งบริษัทลูก หรือ “บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด” หรือ SRTA ซึ่งมีหน้าที่และบทบาทในการบริหารสัญญาที่ดินของการรถไฟฯทั้งหมดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้การรถไฟฯมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถปลดหนี้ที่มีอยู่กว่า 2.3 แสนล้านบาทได้

ปัจจุบันการรถไฟฯ มีที่ดินทั้งหมด 246,880 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ Core Business เป็นพื้นที่ย่านสถานี ที่ทำการ เขตทางรถไฟ จำนวน 201,868 ไร่ และพื้นที่ Non-Core Business ที่สามารถนำไปทำประโยชน์ได้ จำนวน 45,012 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ สามารถนำไปพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จำนวน 33,761 ไร่

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมาคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้รับทราบตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ที่ให้ รฟท.จัดตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินและเห็นชอบให้ดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว

โดยบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินจะใช้ชื่อที่เป็นทางการว่า “บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด” (บริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด) มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท หรือ 25% ของวงเงิน 200 ล้านบาทที่ ครม.อนุมัติให้ รฟท.กู้ยืมและให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2564 ได้มีการพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่างรฟท.กับ บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด (บริษัทลูก) ถือเป็นการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครั้งสำคัญของรฟท. เพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟู สร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2567 การรถไฟฯได้ส่งมอบแฟ้มสัญญาเช่าและการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Non Core) ให้กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) อย่างเป็นทางการ จำนวน 12,233 สัญญา ประกอบด้วย

1.สัญญา ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน จำนวน 5,856 สัญญา 2.สัญญาฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ จำนวน 6,369 สัญญา 3.สัญญาฝ่ายอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จำนวน 8 สัญญา บนพื้นที่กว่า 38,469 ไร่

ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทลูกของการรถไฟฯ นำไปบริหารจัดการสัญญาเช่า โดยที่ทรัพย์สินทั้งหมดยังเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ รวมทั้งจัดสรรพื้นที่และเจรจากับบุคคลที่สาม หรือร่วมทุนกับเอกชน เพื่อรับโอนพื้นที่ไปดำเนินการ

หลังจากการส่งมอบสัญญาให้บริษัทเอสอาร์ที แล้วเสร็จ ขณะเดียวกันรฟท.ได้ตั้งเป้ามีรายได้พื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นในปี 68 จำนวน 4,000 ล้านบาทต่อปี

จากปัจจุบันที่รฟท.มีรายได้อยู่ที่ 3,700 ล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายภายใน 4 ปี จะมีรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นรวม 20,000 ล้านบาท

“บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด” จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้กับรฟท. ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่าที่ได้รับมอบจากรฟท.การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของรฟท. รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน หวังสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่รฟท.

ล่าสุด “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” เป็นอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจ็กต์เรือธงของรัฐบาลนาวสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ต้องการให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองในราคาถูกและจับต้องได้ ซึ่งโครงการฯนี้ได้นำร่องบนที่ดินของการรถไฟฯ 4 แห่ง ประกอบด้วย บางซื่อกม.11 ,สถานีธนบุรี ,เชียงราก และเชียงใหม่ ทำให้ “บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด” เข้ามามีบทบาทเต็มตัวกลายเป็นเจ้าภาพในโครงการนี้ทันที เนื่องจากเป็นบริษัทลูกที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารที่ดินของรฟท.อยู่แล้ว 

วันนี้ (17 ม.ค.) เวลา 14.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีเปิด “โครงการบ้านเพื่อคนไทย”  ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ประตู 1)

โดยภายในงานจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องตัวอย่าง ของบ้านเดี่ยว และห้องชุดคอนโดมิเนียม พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ที่สนใจแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนผ่านทาง www.บ้านเพื่อคนไทย.th  

นอกจากนี้บริษัท SRTA ได้จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โครงการของรฟท. ออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ แผนเร่งด่วน ปี 2568 จำนวน 8 แปลง เช่น

1.โครงการบางซื่อ - คลองตัน (RCA) 2.โครงการศิลาอาสน์แปลงย่อย 3.โครงการย่านบางซื่อ(แปลง A2) สถานีขนส่ง 4.โครงการสถานีราชปรารภ(แปลง OA) 5.โครงการถนนพหลโยธิน (หัวมุม อตก.) 

ส่วนแผนระยะกลาง ปี 2569 – 2572 จำนวน 18 แปลง เช่น 1.โครงการย่านสถานีแม่น้ำ  2.โครงการย่านสถานีบางซื่อ (แปลง D) 3.โครงการย่านบางซื่อ กม.11 (แปลง G2-G8)    4.โครงการบริเวณท่านุ่น 5.โครงการย่านบางซื่อ (แปลง E1)

6.โครงการย่านบางซื่อ (แปลง A2) สถานีขนส่ง 7.โครงการย่านสถานีมักกะสัน (แปลง B C E) 8.โครงการย่านชุมทางหาดใหญ่ (แปลง D) 9.โครงการตลาดศาลาน้ำร้อน (สถานีธนบุรี) 10.โครงการย่านสถานีบางซื่อ (แปลง C ) 11.โครงการบางซื่อ (แปลง A1) สนง.ใหญ่ รฟท. ฯลฯ

ด้านแผนระยะยาว ปี 2573 – 2577 จำนวน 9 แปลง เช่น 1.โครงการพัฒนาพื้นที่ธนบุรี 21 ไร่  2.โครงการย่านชุมทางหาดใหญ่ (แปลง A F G) 3.โครงการย่านสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)    4.โครงการย่านสถานีบางซื่อ (แปลง F) 5.โครงการย่านสถานีนครราชสีมา (แปลง F) ฯลฯ 

“โครงการบ้านเพื่อไทย” ถือเป็นบิ๊กโปรเจ็กต์พิสูจน์ฝีมือ “บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด” หรือ SRTA จะสามารถบริหารที่ดินรฟท.จนเกิดรายได้ตามแผนหรือไม่ หากทำได้ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอย่างแน่นอน