greener-living

ผู้ซื้อคาร์บอนฯ มุ่งบรรลุความยั่งยืน สร้างภาพลักษณ์ดี ผู้ขายมีรายได้เพิ่ม

    ผู้ซื้อคาร์บอนฯ มุ่งบรรลุความยั่งยืน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ผู้ขาย-ผู้พัฒนาโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น

ประโยชน์ของคาร์บอนเครดิต
แม้หลายๆ องค์กรจะตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่บางองค์กรอาจยังไม่สามารถดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเองได้ จึงต้องอาศัยการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) เพื่อบรรลุเป้าหมายสีเขียว โดยคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถนำไปชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระดับองค์กร ผลิตภัณฑ์ งานอีเว้นท์ และบุคคลได้ 

 

อีกทั้งยังใช้เป็นกลไกในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดกลับคืนผ่าน 3 กลไก ได้แก่ การลด การดูดกลับ และการชดเชยด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต

 

กลไกคาร์บอนเครดิต ยังส่งเสริมให้เกิดแนวทางการลดและกักเก็บการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและเทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจก และการพัฒนาระบบการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification: MRV) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของการรับรองคาร์บอนเครดิต 

 

ประโยชน์ในมุมผู้ซื้อและผู้พัฒนาโครงการ

ยิ่งไปกว่านั้นในมุมของผู้ซื้อ สามารถนำปริมาณคาร์บอนเครดิตไปรายงานผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ซึ่งท้ายที่สุดจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรได้ ในขณะที่ผู้พัฒนาโครงการเองสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย

 

นอกจากนี้ คาร์บอนเครดิตที่ได้รับจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถถ่ายโอนระหว่างประเทศได้ ตามมาตราที่ 6 ของความตกลงปารีส (Article 6 of Paris Agreement) ภายใต้แนวทางและระบบติดตามที่หลีกเลี่ยงการนับผลการลดก๊าซเรือนกระจกซ้ำ (Double counting) สะท้อนว่าผู้พัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตจะมีโอกาสจากทั้งตลาดในประเทศและตลาดระหว่างประเทศ ที่มุ่งไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนเช่นเดียวกัน