เปิดวิชั่น CEO ‘อภิชาติ จูตระกูล’ ตลาดลักชัวรี ยังเป็นธงนำ ‘แสนสิริ’เติบโต

21 ก.ย. 2566 | 09:57 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2566 | 10:11 น.

เปิดวิชั่น CEO คุณปิ๊บ " อภิชาติ จูตระกูล" ตลาดลักชัวรี ยังเป็นธงนำ ‘แสนสิริ’เติบโต ยันเกือบ40ปี เกิดมาจากโครงการลักชัวรี 400โครงการ 3หมื่นลูกบ้านยังดูแลครบ

ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ปี2566 ขึ้นนำเบอร์หนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับ บริษัทแสนสิริจำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ยักษ์อสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย สะท้อนจากกำไรสุทธิ 3,203 ล้านบาท โตก้าวกระโดดถึง 162% และกวาดรายได้รวมครึ่งปี แรก 18,493 ล้านบาท โต 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยปี 2565 เป็นปีที่ “แสนสิริ” ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 50% และยอดโอน 36,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น (ปี2564) 

เรียกว่าปีที่ผ่านมาทำตัวเลขนิวไฮแล้ว ปี 2566 แสนสิริยังคงทุบสถิติใหม่ ทั้งจำนวนโครงการ ยอดพรีเซล เป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิ สูงสุดเป็นประวัติการณ์  “All-Time High” ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในรอบเกือบ 40 ปี ตอกย้ำความสำเร็จ ครองความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคและนับวันจะมีอายุน้อยลง เรื่อยๆ โดยเฉพาะเศรษฐีอายุน้อย  ที่ประสบความสำเร็จมาจากธุรกิจสตาร์ทอัพ  อาชีพอิสระ จากออนไลน์ โอกาสทองช่วงโควิด ทำให้บ้านของแสนสิริ ขยายฐานกำลังซื้อออกไปได้กว้างขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มบ้านแพง  และแสนสิริเอง ได้ตอบโจทย์ ตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ ได้อย่างลงตัว จากการ รีเฟรชจุดยืนแบรนด์ (Brand Purpose) ผ่านแคมเปญล่าสุด “ชีวิตคุณ คือ แรงบันดาลใจของเรา…You Are Made For Life” ย้ำภาพผู้นำแบรนด์อสังหาฯอันดับหนึ่ง เปิดตัวหนังโฆษณา It’s not how you look, it’s how you live. “เพราะชีวิต ไม่ใช่แค่เปลือกนอกที่เห็น แต่คือ ทุกสิ่งที่คุณเป็น”

  โดยให้ แสนสิริ กลับมาเป็นคนรุ่นหนุ่มสาวก้าวทันโลกอยู่เสมอ  เห็นลูกค้าและผู้คนในยุคนี้มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพศ การแต่งกาย ฐานะ หรืออายุอีกต่อไป ที่สำคัญแสนสิริให้ความสำคัญ การรักษ์โลกร้อนและเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมที่ประกาศ  พันธกิจ  Net-Zero สู่บ้านลดคาร์บอน ที่กลุ่มลูกค้าให้ความสำคัญ

  หากย้อนไปในยุคแรกเริ่ม ปี 2531 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “แสนสิริ” ได้ ประสบความสำเร็จ อย่างมากจาก บ้านไข่มุก หัวหิน กลายเป็นภาพจำ โครงการลักชัวรีแห่งแรก จากราคาตารางเมตรละกว่า 3 แสนบาท ปัจจุบันเปลี่ยนมือไปที่ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร สู่ โครงการ 98 WIRELESS คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรีใจกลางถนนวิทยุ ที่ราคาวิ่งไป 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร เช่นเดียวกัน

  โดยย้ำว่า “แสนสิริ” เกิดมาจากลักชัวรี” ซึ่งเป็นคำกล่าวของ คุณปี๊บ “อภิชาติ จูตระกูล”  ที่อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จ และก้าวมา สู่เบื้องหน้า รับบทบาทแม่ทัพใหญ่แทน คุณนิด “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย  

 “ซีอีโอ โฟกัส” ขอพูดคุยถึงแนวคิดที่น่าสนใจของผู้นำแสนสิริ “อภิชาติ จูตระกูล”  ประธานอำนวยการ  ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนบมจ.  แสนสิริ หลังได้รับการแต่งตั้งมาหมาดๆ โดยระบุว่า  เนื่องจากแสนสิริเกิดจากโครงการแนวลักชัวรี และลักชัวรีทำให้แสนสิริ ประสบความสำเร็จ ดังนั้น จึงมีเป้าหมาย เจาะตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้าขยายฐานกว้างมากขึ้นไม่จำกัดแค่นักธุรกิจรุ่นใหญ่วัยทำงาน 40-50 ปีบวกๆขึ้นไป   

อภิชาติ จูตระกูล

ดังนั้น จะเห็นว่าเส้นทางการเติบโตของแสนสิริ มาจากการมองตลาดแบบเฉียบคม โดยปี 2566 แสนสิริได้ขยายพอร์ตกลุ่มบ้านเดี่ยวลักชัวรีแบรนด์เศรษฐสิริมากขึ้น โดยทั้งปีนี้มีแผนเปิด 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 12-30 ล้านบาท ในกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ และขยายแบรนด์ใหม่ ไปในราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งที่ผ่านมาเคยประสบความสำเร็จที่ทำเลกรุงเทพกรีฑา

 คุณปี๊บสะท้อนว่า ตลาดแนวลักชัวรีเป็นแนวของ แสนสิริ ที่ทำมานาน และ โดยมีแบรนด์ “เศรษฐสิริ” เป็นแบรนด์แรกๆ ฉะนั้น ลักชัวรีไม่ต้องพูดถึงเพราะ เกิดมาจากแนวลักชัวรี โดย เมื่อ 20 ปีก่อน บ้านลักชัวรีของแสนสริ ราคาอยู่ที่ 7 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันถือว่าเป็นราคาที่ถูกเพราะ ขยาย แอเรีย  ออกมาค่อนข้างมากสมัยก่อน อยู่ทำเลวัชรพล ถือว่าไกล แต่ปัจจุบันเป็นทำเลที่มีศักยภาพ พื้นที่ 100 ตารางวา 400 ตารางเมตร 10 กว่าล้าน ราคาไม่สูง  กระจายรอบเมืองเดินทางเข้าใจกลางเมืองได้สะดวก

 เมื่อถามถึง การแข่งขันทำเลบ้านหรูชานเมือง คุณปิ๊ปมองว่า ไม่เคยมองใคร และเราคือเรา โดยปีนี้ เปิดตัว 10 โครงการแม้มีความท้าทายเศรษฐกิจบ้างแต่เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยดีกว่าประเทศอื่น ลูกค้าจะดูความแข็งแกร่งของแบรนด์  ความน่าเชื่อถือของบริษัท ความสะดวกสบาย  รวมถึง การออกแบบที่ตอบโจทย์ สะท้อนจาก “บุราสิริ” ที่แสนสิริพัฒนาไป ขายดี ขายได้แต่เป็นการขยับเซ็กเมนท์ ขึ้นไป และกลุ่มลูกค้า ไม่มีปัญหาการถูกปฎิเสธสินเชื่อ

 “เราทำโครงมา 39 ปี 400 โครงการ คนซื้อกับเรา 3 หมื่นครอบครัว เราเป็นแบรนด์ที่อยู่กับลูกค้า ตลอดเพราะไม่ใช่ทำแล้วหนีไปเรายังทำโครงการแรก ลูกค้าก็ยังอยู่กับเรา 39 ปี โครงการล่าสุดก็ยังอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นสามารถตรวจสอบได้ ว่าคนยังต้องการให้เราดูแล อำนวยความสะดวก โดยเฉพาะลักชัวรี ถ้าเขายังต้องการ อยู่กับเราๆ ก็จะดูแลเขาไปตลอด โดยเฉพาะในเรื่องซีเคียวริตี้”

ส่วนการเปลี่ยนแปลงกลุ่มลูกค้า คือ การ “อัพเปอร์ ไฮ” ดังนั้นคนมีเงินเริ่ม ประสบความสำเร็จ อายุน้อยขึ้น คนที่มาซื้อใหม่อายุน้อยลง ปัจจุบันเป็นกลุ่มของคนหนุ่มสาว ที่สำคัญคุณปี๊ปมองตลาดลักชัวรีจะมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องและขยายฐานกว้างขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกที่ดี และต้องการใช้ชีวิต กับบ้านหลังนั้นไปนานๆ หรือ ย้ายมาจากคอนโดมิเนียมมาอยู่บ้านหลังใหญ่ที่ทำงานจากน้ำพักน้ำแรง

นี่คือ เส้นทางการเติบโตของแสนสิริ ที่คุณปิ๊บ “อภิชาติ จูตระกูล” ยืนยันว่า เกิดมาจากโครงการ"ลักชัวรี" ที่แท้จริง !!!

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,924 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2566