นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมได้รับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ตามเอกสารงบประมาณที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 5% โดยยอดการจัดเก็บรายได้รอบ 3 เดือนแรกของปีงบ 68 กรมจัดเก็บได้ 4.7แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Vat ในประเทศที่ดีขึ้น แต่ภาษีนำเข้าลดลง 2,000 ล้านบาท และการจัดเก็บภาษีภ.ง.ด.51 หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ลดลง 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ายอดการจัดเก็บรายได้ใน 6 เดือนแรกหรือจนถึงเดือนเม.ย.นี้ จะทำได้เกินเป้าหมาย และจะพยายามผลักดันให้ทั้งปีเป็นไปตามเป้า
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าช่วงครึ่งหลังของปีจะเผชิญความท้าทาย เพราะต้องจับตาดูการยื่นแบบภาษีนิติบุคคลว่าจะทำได้ตามเป้าหมายแค่ไหน
เนื่องจากการเก็บภาษีจะยึดจากผลประกอบการเมื่อปีทีแล้ว ซึ่งภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นยังไม่ค่อยขยายตัวได้มากนัก จึงต้องดูว่าจะกระทบการยื่นรายได้หรือไม่
“ตอนนี้กรมได้สั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำแผน และคอยติดตามสถานการณ์ยื่นแบบภาษีอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของการยื่นแบบภ.ง.ด. 90/91 ได้มีเข้าไปให้ความรู้อินฟูลเอนเซอร์ และกลุ่มซื้อมาขายไป นอกจากนี้ กรมจะมีการมอร์นิเตอร์การจัดเก็บรายได้รายไตรมาสด้วย”