ท่องเที่ยวปี 2567 ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 35 ล้านคน รายได้ส่อวืดเป้า 4 แสนล้าน

24 ธ.ค. 2567 | 10:13 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2567 | 10:47 น.

ปิดฉากท่องเที่ยวไทยปี 2567 ต่างชาติเที่ยวไทย ทะลุเป้า 35 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายที่ททท.วางไว้ แต่รายได้ตลอดทั้งปีคาดอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท ไม่ถึง 3 ล้านล้านบาท ส่อพลาดเป้า 4 แสนล้านบาท จากสารพัดปัจจัยท้าทายรุมเร้า

ปิดฉากท่องเที่ยวไทยปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินว่า ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท ไม่ถึง 3 ล้านล้านบาท อย่างที่ต้องการ อันเป็นผลจากเศรษฐกิจโลก เงินบาทแข็งค่า และหลายประเทศออกมาตรการแข่งขันในการดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ วีซ่าฟรี การอ่อนค่าของเงินเยน  แต่ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ถือว่า ทะลุเป้า 35 ล้านคนที่วางไว้

สรุปภาพรวมท่องเที่ยวปี 2567

ต่างชาติเที่ยวไทย ปี 2567 ทะลุ 35 ล้านคน นักท่องเที่ยวจีน อันดับ 1

ปัจจุบัน ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2567 ต่างชาติเที่ยวไทยแล้ว 33,491,851 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,573,080 ล้านบาท ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่า ตลอดทั้งปี 2567 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยมีแนวโน้มทะลุ 35.7 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นกรณีที่ดีที่สุด จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าในปีนี้ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ระหว่าง 28-35 ล้านคน 

โดยอันดับ 1 ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะปิดที่ 7 ล้านคน แม้จะยังไม่กลับมาเท่ากับปีก่อนเกิดโควิด (ปี 2562) ที่เคยอยู่ที่ 11 ล้านคนก็ตาม ซึ่งเป็นผลจากการชลอตัวทางเศรษฐกิจจีน คนจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มจีนรุ่นใหม่ และกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) จากปัจจัยวีซ่าฟรี ต่างจากในอดีตที่ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์  ตามมาด้วยมาเลเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้      

       

นักท่องเที่ยวอินเดีย ทะลุ 2 ล้านคน

ปีนี้ตลาดนักท่องเที่ยวที่มีการเติบโตสูงสุด คือ นักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งทะลุ 2 ล้านคนแล้ว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยสำคัญ คือ มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาอินเดีย เดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อการท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจระยะสั้น ระยะเวลาพำนักไม่เกิน 60 วัน

ประกอบกับการบรรลุข้อตกลงด้านการจัดสรรสิทธิการบิน ไทย-อินเดีย ทำให้มีที่นั่งบนเครื่องบินเพิ่ม 7,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ สู่ 6 เมืองสำคัญในอินเดีย ได้แก่ มุมไบ เดลี เชนไน กัลกาตา บังกาลอร์ไฮเดอราบัด เริ่มทำการบินเดือนพ.ย. 2567 ทำให้สายการบินต่างๆสามารถเปิดเที่ยวบินในเส้นทางบินไทย-อินเดียได้เพิ่มขึ้น จึงทำให้นักท่องเที่ยวอินเดีย เติบโต 130% จากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวไต้หวันที่ทะลุ 1 ล้านคน

ต่างชาติเที่ยวไทย

ขณะที่จังหวัดที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูงสุดสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถ้าไม่รวม กรุงเทพฯ คือ ภูเก็ต ซึ่งในปีนี้แทบจะไม่มีโลว์ซีซัน โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตลอดทั้งปีนี้ ก็มีอัตราการเข้าพักใกล้เคียงกับปี 2562 แล้ว โดยโรงแรมระดับ 4-5 ดาวขึ้นไป ราคาขายห้องพักจะสูงกว่าปีก่อนเกิดโควิดแล้ว เนื่องจากมีดีมานต์ของนักท่องเที่ยวสูงมาก

ไทยเที่ยวไทย 197.6 ล้านคน-ครั้ง

สำหรับการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทย ในปีนี้ มีแนวโน้มจะเกินกว่าเป้า โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 148.02 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท ทำให้ตลอดทั้งปีนี้มีแนวโน้มที่คนไทยจะเดินทางเที่ยวในประเทศ 197.6 ล้านคน-ครั้ง จากเป้าหมายที่ททท.ตั้งไว้ที่ 158-200 ล้านคน-ครั้ง  เนื่องจากททท.มีการจัดอีเว้นท์และแคมเปญกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่อง

     

อย่างไรก็ตามแม้ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งต่างชาติเที่ยวไทย และไทยเที่ยวไทย ถือว่าทำให้ดีตามเป้าหมาย แต่ในแง่ของรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ ชัดเจนว่าจะไม่ถึงเป้าหมายสูงสุดที่ททท.คาดไว้ แต่ก็เกินเกณฑ์เป้าหมายต่ำสุดที่วางไว้

สารพัดปัจจัยท้าทาย ฉุดรายได้ท่องเที่ยว ปี 2567 พลาดเป้าเฉียด 4 แสนล้าน

โดยในปีนี้คาดว่าไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติเที่ยวไทยและไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ราว 2.62 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ราว 3.8 แสนล้านบาท หรือเฉียด 4 แสนล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 1.67 ล้านล้านบาท และรายได้จากตลาดในประเทศอยู่ที่ 9.45 แสนล้านบาท

เนื่องจากการใช้จ่ายของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เป็นตลาดระยะสั้น ทำให้มีวันพักไม่สูง ส่วนตลาดระยะไกล แม้จะเดินทางมาเที่ยวหลายวัน แต่ระมัดระวังในการใช้จ่าย จากภาวะเศรษฐกิจโลกชลอตัว 

ท่องเที่ยวปี 2567 ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 35 ล้านคน รายได้ส่อวืดเป้า 4 แสนล้าน

เช่นเดียวกับคนไทย ที่แม้จะเดินทางเที่ยวอยู่ แต่ก็ลดวันท่องเที่ยวและลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลง เนื่องจากความกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือน และความผันผวนของราคาน้ำมัน ซึ่งกว่า 80% ของคนไทยนิยมขับรถเที่ยวจึงหันมาเที่ยวระยะใกล้แทน  รวมถึงการหันเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน จากมาตรการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว

รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเที่ยวต่างประเทศที่ถูกกว่าในประเทศ จากปัญหาตั๋วเครื่องบินในประเทศมีราคาแพง โดยในปีนี้ทางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) คาดว่า ตลอดทั้งปีนี้คนไทยจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ 13-14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6 %

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผย การท่องเที่ยวไทย ในปี 2567 มีแนวโน้มที่จะปิดตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 2.6 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ตลาดต่างประเทศ 1.7 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 35 ล้านคน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันมีกระแสการเดินทางเข้าไทยเฉลี่ย 1.3 แสนคนต่อวัน บางวันพีคถึง 1.5 แสนคนต่อวัน

สรวงศ์ เทียนทอง

หลายตลาดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสะสมเกิน 1 ล้านคน เช่น สหรัฐ และไต้หวัน รวมถึงอินเดียที่เพิ่งทุบสถิติสูงสุด 2 ล้านคน ส่วนรายได้ตลาดในประเทศคาดปิดที่ 9 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 198 ล้านคน-ครั้ง

ปัจจัยที่ทำให้รายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2567 ไปไม่ถึงเป้าหมาย 3 ล้านล้านบาท มาจากภาวะสงครามในหลายพื้นที่ เศรษฐกิจโลกไม่ดี และเงินบาทแข็งค่า ทำให้ในปี 2568 ภาคการท่องเที่ยวไทยต้องมุ่งทำตลาดนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงมากขึ้น เจาะกลุ่มลักชัวรีมากขึ้น หลังในบางพื้นที่ เช่น ภูเก็ต ที่ผู้ประกอบการสะท้อนภาพว่าแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยลง แต่ในเชิงมูลค่า ถือว่าได้มาสูงขึ้น