ไร่มันร้องนายกฯ เดือดร้อนหนัก ถูกกดซื้อเหลือแค่โลละบาท ร้องประกันสิบสลึง

14 ธ.ค. 2567 | 16:22 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ธ.ค. 2567 | 16:42 น.

ชาวไร่มันสำปะหลังเดือดร้อนหนัก ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ช่วยประกันราคาหน้าโรงงาน 2.50 บาท/กก. หากไม่ได้ขอให้รัฐบาลจ่ายชดเชยหลังถูกผู้ค้ารุมกดราคาเหลือแค่ 1 บาท ลานมันทุบซ้ำปิดการรับซื้อ จัดชุมนุมรอฟังคำตอบจากรัฐบาล 20 ธ.ค.นี้

รายงานข่าวจากสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือที่ 050/2567 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ขอให้แก้ไขปัญหาราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำในฤดูกาล ปี 2567/68 ด่วนที่สุด  ลงนามโดย นายรังษี  ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย

สาระสำคัญของหนังสือระบุว่า เนื่องด้วยในขณะนี้ถึงฤดูกาลขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่ของประเทศเข้าโรงงาน  แต่ราคาหัวมันสำปะหลังทุกจังหวัดทั่วประเทศตกต่ำอย่างมาก ราคาลดลงทุกวัน โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีราคาเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาทเท่านั้น และลานรับซื้อหัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่ปิดการรับซื้อ

  • สาเหตุมาจาก

1.ลานตากมันเส้นไม่มีที่ขายมันเส้น เพราะโรงงานผลิตเอทานอลในประเทศไม่รับซื้อเนื่องจากแผนนโยบายกระทรวงพลังงาน (0il plan 2024) ไม่ส่งเสริมน้ำมัน E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานต่อไป ทำให้การใช้มันสำปะหลังลดลง 2.ตลาดมันเส้นส่งออกต่างประเทศลดลงและถูกกดราคาต่ำมากเกินไป

ไร่มันร้องนายกฯ เดือดร้อนหนัก ถูกกดซื้อเหลือแค่โลละบาท ร้องประกันสิบสลึง

3.ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทยได้มีการขายตัดราคาต่ำ ๆ กันเองเพื่อแย่งลูกค้ากัน แล้วมากดราคารับซื้อหัวมันสดในราคาถูก ๆ จนทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศเดือดร้อน และประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนักเพราะตุ้นทุนการผลิตหัวมันสำปะหลังอยู่ที่ กิโลกรัมละ 2.50 บาท  จะส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือนของเกษตรกรลดลง  หนี้ครัวเรือนมากขึ้น  และจะทำให้เกษตรกรต้องเลิกปลูกมันสำปะหลัง  ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งระบบอย่างแน่นอน  รวมถึงกระทบต่อการส่งออกแป้งมัน และมันเส้น ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย 

ดังนั้นในฐานะนายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย และในฐานะตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจังหวัดกาญจนบุรี ขอเสนอข้อเรียกร้อง 4 ข้อเพื่อแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ มายังนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล ดังต่อไปนี้

1.ขอให้รัฐบาลประกันราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังหน้าโรงงานที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท (เชื้อแป้ง 25%) ให้ทุกโรงงานทุกจังหวัดรับซื้อในราคาเดียวกัน และหากโรงงานรับซื้อไม่ถึงกิโลกรัมละ 2.50 บาท ให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกร เพื่อไม่ให้เกษตรกรขาดทุน

ไร่มันร้องนายกฯ เดือดร้อนหนัก ถูกกดซื้อเหลือแค่โลละบาท ร้องประกันสิบสลึง

2.ขอให้รัฐบาลช่วยผลักดัน E20 เป็นนำมันพื้นฐาน และ E85 กลับมาใช้ใหม่ และให้ยกเลิกเบนซินออกเทน  91 ทันที เพื่อช่วยให้โรงกลั่นเอทานอลได้ช่วยซื้อมันสำปะหลังมากขึ้น ลดการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ เพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาหัวมันสำปะหลังไม่ให้ตกต่ำ

3.ขอให้รัฐบาลสั่งกระทรวงการคลัง ออกประกาศกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเอทานอลในประเทศ  ให้สามารถจำหน่ายสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อย่างเสรี เช่น 1.ใช้ผสมอาหาร 2.ใช้ในการผลิตสารเคมี 3.ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง 4.ใช้ในเภสัชกรรมและสาธารณสุข 5.ในอุตสาหกรรมพลาสติกย่อยสลายได้ 6.ใช้ในอุตสาหกรรมสีและสารเคลือบ 7.ใช้ทำความสะอาด 8.ใช้สกัดสมุนไพรต่าง ๆ โดยไม่ต้องกำหนดให้ใช้ผสมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้นตาม พ.ร.บ.สุราสามทับ ก็จะช่วยทำให้การใช้หัวมันสำปะหลังภายในประเทศมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาตลาดมันเส้นส่งออกมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังในประเทศตกต่ำ

4.ขอให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อควบคุมผู้ค้าขาย แป้งมัน และมันเส้นส่งออก ไปยังต่างประเทศ ไม่ให้ขายตัดราคากันเองในราคาถูก ๆ  แล้วมากดราคารับซื้อหัวมันสดในราคาถูกมากเกินไป  จึงส่งผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังตกต่ำมาก

ไร่มันร้องนายกฯ เดือดร้อนหนัก ถูกกดซื้อเหลือแค่โลละบาท ร้องประกันสิบสลึง

ทั้งนี้ชาวไร่มันสำปะหลังจังหวัดกาญจนบุรี จึงขอยื่นข้อเสนอเรียกร้องการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำ มายังนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล ขอได้โปรดกรุณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามที่ได้เสนอมาทั้งหมดอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อไม่ให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำมากเกินกว่านี้

รายงานข่าวระบุอีกว่า ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ได้มีการเชิญชวนชาวไร่มันสำปะหลังที่ได้รับความเดือดร้อน รวมพลังเรียกร้องราคามันสำหลังตกต่ำ ณ หน้าศาลากลาง จังหวัดกาญจนบุรี ตามสิทธิระบอบประชาธิปไตยโดยสงบ ไม่ปิดถนน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป