นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เผยว่า ขณะนี้ถึงฤดูกาลขุดมันสำปะหลังส่วนมาก ออกสู่ตลาดแล้ว แต่ราคามันสำปะหลังทุกจังหวัดทั่วประเทศตกต่ำอย่างมาก ราคากิโลกรัมละ 1.40 -2.0 บาทเท่านั้น ที่เชื้อแป้ง 25% จึงทำให้เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังจำนวน 53จังหวัด เดือดร้อนมากต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก
อีกทั้งยังมีปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลังระบาดเกือบทั่วประเทศ ที่จะส่งผลกระทบการขาดแคลนท่อนพันธุ์ปลอดโรค ไว้ปลูกในปีต่อไปด้วย และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมมันสำปะหลังทั้งระบบ และจะเสียหายทางเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาทในปีต่อๆไป เกษตรกรต้องเลิกปลูกมันเพราะราคาตกต่ำ และขาดแคลนท่อนพันธุ์มัน โรงแป้ง และลานตากมันเส้นต้องเลิกกิจการอย่างแน่นอน ชาวไร่มันต้องหันไปปลูกอ้อย และพืชอื่นๆก็จะไปทำให้พืชอื่นล้นตลาดราคาตกต่ำอีกเช่นกัน
สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ได้เสนอแนวทางการแก้ไขราคามันสำปะหลัง มายังกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง ที่มีส่วนร่วมในการช่วยรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศไม่ให้ตกต่ำ โดยไม่ต้องใช้เงินงบประมาณมาชดเชยราคาผลผลิตตกต่ำ ด้วยการให้กระทรวงพลังงานประกาศใช้นำมันพื้นฐานเป็น E20 E85 และยกเลิกน้ำมันเบนซินออกเทน 91,95 เพื่อให้ใช้เอทานอลภายในประเทศมากขึ้น และขอให้กระทรวงการคลังแก้ไขประกาศ
หรือระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่เดิมกำหนดให้เอทานอลที่กลั่นได้จะต้องใช้ผสมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ให้สามารถขายได้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆมากขึ้น เพื่อให้มันสำปะหลังสามารถนำมาผลิตเป็นเอทานอล ใช้ในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศไม่ให้ตกต่ำได้อย่างยั่งยืน เพราะไม่ต้องพึ่งตลาดแป้งมัน และมันเส้น ต่างประเทศมากเกินไป
แต่ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือเสนอโครงการมายัง รัฐบาลและ 3กระทรวงหลัก ไม่เคยสนใจจะให้ความสำคัญแต่อย่างใดสักกระทรวงเลย ขณะนี้ถึงเวลาขุดมันสำปะหลังแล้วราคามันสำปะหลังตกต่ำลงอย่างมาก ชาวไร่มันสำปะหลังทั่วประเทศเดือดร้อนมากอย่างหนัก สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอโครงการแก้ไขปัญหา ต่อรัฐบาลผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้คือ
มาตรการหลักเพื่อแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำอย่างเร่งด่วน
มาตรการคู่ขนาน เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลังในปีหน้า
1. สินเชื่อเพื่อรวบรวมมันเส้นสะอาด ให้กับสหกรณ์ , กลุ่มเกษตรกรมันสำปะหลังแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน ที่แปรรูปมันเส้น เพื่อเก็บสต็อกรวบรวมไว้ขายให้ได้ราคาเพิ่มขึ้นจำนวน 1 แสนตันๆละ 7,500 บาท คิดเป็นเงิน 750 ล้านบาทโดยใช้สินเชื่อ ธกส.แต่ให้รัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด
2. ขอสนับสนุนสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องดินทรายหัวมันสำปะหลังก่อนตากเป็นมันเส้น ให้ลานตากมันสำปะหลังทั่วประเทศ ได้มีเครื่องร่อนดินทราย เพื่อผลิตมันเส้นสะอาด โดยใช้สินเชื่อ ธกส. ราคาเครื่องละ 2.5 แสนบาท ให้รัฐบาลช่วยชดเชยดอกเบี้ย เป็นเวลา 2 ปี
3.สนับสนุนงบประมาณจัดซื้อเครื่องสับมันสำปะหลังขนาดเล็ก จำนวน 1,300 เครื่องๆละ 15,000 บาท ใช้งบประมาณ จำนวน 20 ล้านบาทเพื่อให้กลุ่มเกษตรกรได้มีเครื่องสับมันสำปะหลังแปรูปเป็นมันเส้นสะอาด ขายได้ราคามากกว่าขายหัวมันสำปะหลังสด
4. ของประมาณจัดซื้อท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดปลอดโรค จำนวน 500 ล้านลำๆละ 5 บาทคิดเป็นเงินจำนวน 250 ล้านบาทเพื่อแจกให้เกษตรกรพื้นที่เป็นโรคใบด่างมันสำปะหลัง จะได้ไว้ขยายต่อไป
สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ตัวแทนชาวไร่มันสำปะหลังทั่วประเทศ ขอยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลได้พิจารณาช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องมาทั้งหมดนี้ ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาเบื้องต้น หากรัฐบาลไม่สนใจจะแก้ไขปัญหาปล่อยให้ราคามันสำปะหลังตกต่ำลงเรื่อยๆ เกษตรกรทั่วประเทศก็คงต้องเดินทางมาเรียกร้องกันเองทุกจังหวัดเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้โปรดจัดการประชุมคณะกรรมการ (นบมส.) อย่างเร่งด่วน