พิชัย ถก ญี่ปุ่น ดึงนักธุรกิจลงทุนในไทย ขยายอุตฯยานยนต์-ไฮเทค

16 พ.ย. 2567 | 07:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2567 | 08:43 น.

พิชัย รมว.พาณิชย์ หารือ รมว.เศรษฐกิจการค้าฯ ญี่ปุ่น ชวนลงทุนในไทย ขยายอุตสาหกรรมยานยนต์-ไฮเทค ไทยพร้อมเยือนญี่ปุน 19 – 24 เดือน ธ.ค. 67 เข้าร่วมกิจกรรม “Happy Winter Thai Festival”

 วันนี้ (16 พ.ย. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.45น. (วลาท้องถิ่นเปรู) ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ได้หารือทวิภาคีกับ นายมูโตะ โยจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น

 

พิชัย ถก ญี่ปุ่น ดึงนักธุรกิจลงทุนในไทย ขยายอุตฯยานยนต์-ไฮเทค

นายพิชัย กล่าวว่า ไทยได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ ยานยนต์สันดาปและยานยนต์ยุคใหม่ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิต ทั้งยานยนต์สันดาปและยานยนต์ยุคใหม่ให้กับญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทคมาลงทุน โดยเฉพาะ PCB ซึ่งต่อไปไทยจะเป็นฐานการผลิตใหญ่ของโลก และได้เชิญมาลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมชั้นนำอื่น ๆ

 

พิชัย ถก ญี่ปุ่น ดึงนักธุรกิจลงทุนในไทย ขยายอุตฯยานยนต์-ไฮเทค

 

“ในช่วงปี 2557 นักลงทุนจากญี่ปุ่นหายไปจากประเทศไทยราว 50% จากเดิมที่เคยเป็นนักลงทุนอันดับ1ของไทย ซึ่งจากการหารือครั้งนี้ และการที่ได้พบกับไจก้ามาก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นรับปากว่าจะกลับมาลงทุนในไทยให้มากขึ้น ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอันดับการลงทุนของญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นกลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแล้ว“ “นายพิชัย กล่าว

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคม 2568 ตนจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “Happy Winter Thai Festival” ระหว่างวันที่ 19 – 24 ธันวาคม 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม PCB และAI Data center 

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นแจ้งความคืบหน้าของการจัดการงาน EXPO 2025 OSAKA Kansai ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยรัฐบาลไทย รวมถึงกระทรวงพาณิชย์จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการ Thailand Pavilion เพื่อชูศักยภาพการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของไทย 

 

พิชัย ถก ญี่ปุ่น ดึงนักธุรกิจลงทุนในไทย ขยายอุตฯยานยนต์-ไฮเทค

 

สำหรับ การค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในปี 2566 ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนและสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 55,789.19 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปญี่ปุ่น 24,594.13 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ 

  • รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • ไก่แปรรูป 
  • เครื่องจักรและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล แผงวงจรไฟฟ้า 

ขณะที่ การนำเข้าจากญี่ปุ่น 31,195.06 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ 

  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 
  • เหล็ก เหล็กกล้า
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 
  • ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ 

ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนของปี 2567 (มกราคม - กันยายน) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 38,635.35 ล้านดอลลาร์ เป็นการส่งออก 17,423.23 ล้านดอลลาร์ และเป็นการนำเข้า 21,212.12 ล้านดอลลาร์