คลังยังไม่สรุปเพิ่มทุน “การบินไทย” คาดออกจากแผนฟื้นฟู ก.พ.68

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องของการใส่เงินเพิ่มทุนให้กับการบินไทย โดยเห็นว่า ขณะนี้ ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ถือหุ้นอาจไม่จำเป็นจะต้องใส่เงินเพิ่มทุนเข้าไปอีก

อย่างไรก็ดี ทางการบินไทยเอง ต้องการที่จะให้ผู้ถือหุ้นใส่เงินเพิ่มทุนให้ ซึ่งตามแผนของกระทรวงการคลังนั้น เตรียมที่จะใส่เงินเพิ่มทุนราว 1.25 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อผลประกอบการของการบินไทยดีขึ้น ดังนั้น สคร.เองก็คิดว่า กระทรวงการคลังก็ไม่จำเป็นต้องใส่เงินเพิ่มทุนทุกครั้งไปหรือไม่

“เขาอยากได้ทุนเพิ่ม แต่เราก็คิดว่า อาจจะไม่จำเป็น เมื่อผลประกอบการดี คลังก็ไม่ต้องใส่เงินทุกครั้ง และเราก็ต้องดูว่า ถูกหรือแพง ฉะนั้น เรื่องเพิ่มทุนก็ยังไม่ยุติ และรวมถึง ผู้ถือหุ้นอื่นด้วย แต่ละคนก็จะกลับไปพิจารณา”

ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปว่า คลังจะเพิ่มทุนในจำนวน 1.25 หมื่นล้านบาทดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของคลังอยู่ที่ประมาณ 41% จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 40%

ขณะที่ส่วนของเจ้าหนี้นั้น มีโจทย์ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ต้องกลับไปพิจารณา เช่น การแปลงหนี้เป็นทุน ซึ่งมีข้อกำหนดว่า เงินเจ้าหนี้ 100 บาท จะต้องแปลงเป็นทุน 24.5% ส่วนอีก 74.5% นั้น เป็นสิทธิ์ของเจ้าหนี้ว่า จะแปลงหนี้เป็นทุนหรือไม่ โดยเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องการใช้สิทธิ์ หากว่า ผลประกอบการของการบินไทยดีขึ้น จะได้ผลตอบแทนกลับมาเร็วกว่าการรอเงินชำระหนี้

“มีเงื่อนไขของเจ้าหนี้ 100 บาท ต้องแปลงเป็นทุน 24.5% ส่วนที่เหลือ 74.5% เป็นสิทธิของเขาที่จะตัดสินใจใช้ดีหรือไม่ แต่คนส่วนใหญ่บอกใช้สิทธิ เพื่อให้ได้เงินเร็วขึ้น ไม่เช่นนั้น อีกสิบปีกว่าจะได้คืน ถ้าแปลงกเป็นทุนแล้ว ถ้าหุ้นขึ้น เมื่อได้ Capital Gain ก็ขายออกได้เลย เจ้าหนี้ได้ประโยชน์มากกว่า แต่ส่วนของคลังก็แปลงหนี้เป็นทุน 100%”

สำหรับการบินไทยนั้น จะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในช่วงกลางเดือนก.พ. 2568 และจะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นราวเดือนพ.ค.2568 เนื่องจาก สามารถปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการทุกด้านได้สำเร็จ