"นูโทรจีนา" ปรับแผนเดินหน้าสู่ตลาดเวชสำอาง

26 พ.ค. 2567 | 17:35 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2567 | 17:39 น.

นูโทรจีนา เขย่าวงการสกินแคร์ หมื่นล้าน เดินเกมรุกตลาด แอนตี้ เอจจิ้ง ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี เจาะอินไซต์คนไทย พร้อมจ่ายเพื่อความสวย ตั้งเป้าก้าวสู่แบรนด์เวชสำอางภายใน 2 ปี

นางสาวชวีนา จิตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นูโทรจีนา ประจำประเทศไทย กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าสกินแคร์ บำรุงผิวหน้าหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ในไทยมีมูลค่ามากกว่า 13,000 ล้านบาท เติบโต 13% ในปีที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าในปีนี้ จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มที่มาแรงในประเทศไทยและตลาดโลก ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ขาวกระจ่างใส 50% 2. แอนไทเอจจิ้ง 40% และ3.ทั่วไป ซึ่งเดิมการเติบโตหลักมาจากกลุ่มขาวกระจ่างใส แต่ปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยแอนไทเอจจิ้ง และในปีนี้เรตินอลกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง ยิ่งทำให้ แอนไทเอจจิ้ง มีแนวโน้มจะมีสัดส่วนใหญ่สุดของตลาดสกินแคร์ในอนาคต

\"นูโทรจีนา\" ปรับแผนเดินหน้าสู่ตลาดเวชสำอาง

นูโทรจีนา จับเทรนด์ดังกล่าวบุกตลาดครั้งใหญ่ผ่าน “นูโทรจีนา วิซิเบิล รีแพร์” กลุ่มเรตินอล เจาะอินไซต์คนไทย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เน้นการลดริ้วรอย บำรุงผิวให้กระชับ เผยคนไทยเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าที่มีความน่าเชื่อถือและราคาสมเหตุสมผล นูโทรจีน่าปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าอายุเฉลี่ย 30 ปีขึ้นไป การดึงดูดกลุ่มลุกค้าแบรนด์จะต้องมีความน่าเชื่อถือ สู่การตั้งเป็นจากแบรนด์สกินแคร์สู่แบรนด์เวชสำอางไม่เกิน 2 ปี ท้าชนกับคู่แข่งในตลาด

การเข้าถึง Touchpoint ของผู้บริโภค นูโทรจีนา ได้มีการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สุดยิ่งใหญ่ พร้อมจัดอีเวนต์ทางการตลาดใจกลางเมืองตลอด 4 วันเต็ม สร้างการรับรู้และสร้างประสบการณ์ตรงให้แก่ผู้บริโภคได้มาสัมผัสด้วยตนเอง (Customer Experience)

\"นูโทรจีนา\" ปรับแผนเดินหน้าสู่ตลาดเวชสำอาง

นอกจากนี้ยังขยายการรับรู้และสร้างไวรัลด้วยเหล่าคนดังร่วมสร้างสีสันภายในงานมากมาย อาทิ พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ และ จันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวหนัง รวมทั้งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์อีกมากมาย เพิ่มดีกรีความอิมแพคด้วย Hyper-Realistic Ads การทำภาพผลิตภัณฑ์เสมือนจริง ผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) สร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่ ดึงความสนใจของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น และสร้างกระแสไวรัลใน โซเชียลอีกด้วย