CRG ทุ่ม 6,00 ล้าน ปั้น 2 แบรนด์ใหม่ "นักล่าหมูกระทะ-คีอานิ"

คาดการณ์ว่าตลาดร้านอาหารในปีนี้ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง 5-7% จากมูลค่า 430,000 ล้านบาท ขึ้นเป็น 480,000 ล้านบาท แม้จะต้องเผชิญกับกระแสเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง แต่ตัวเลขการเติบโตยังคงสม่ำเสมอ สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของธุรกิจร้านอาหารในประเทศ

นายณัฐ วงศ์พานิช บริษัท เซ็นทรัลเรสตอรองส์ กรุ๊ปจำกัด (CRG) กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนของ CRG ภายใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2567- 2571) จะเน้นลงทุนขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม ด้วยงบ 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายขยายและปรับปรุงสาขาเดิมรวมกว่า 2,000 สาขาดันยอดขายแตะ 30,000 ล้านบาท 

สำหรับปี 2566 ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง CRG สามารถเติบโต 13% ด้วยรายได้ 14,500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวสาขาใหม่มากกว่า 140 สาขา ภายใต้ 21 แบรนด์ ส่งผลให้ปัจจุบัน CRG มีจำนวนสาขาทั่วประเทศรวมกว่า 1,600 สาขา ส่วนปีนี้ได้วางงบลงทุน 1,000 ล้านบาท  สำหรับการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม โดยตั้งเป้าขยายสาขาใหม่100-120 สาขา พร้อมเป้าหมายรายได้เติบโต 14% 

ธุรกิจร้านอาหารปีนี้ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลน พนักงาน ต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้ร้านอาหารต่างๆ ต้องปรับตัว พัฒนาเมนูใหม่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ตลาดร้านอาหารมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 1 แสนร้าน

อย่างไรก็ตาม ยังพบปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวภาครัฐ พฤติกรรมการนั่งรับประทานอาหารในร้านกลับเข้าสู่สภาวะปกติ 80% ตลอดจนความนิยมรับประทานอาหารคนเดียวที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่อยากทดลองร้านอาหารแนวใหม่ หรือเมนูตามกระแสตลอดเวลา

CRG ยังได้ริเริ่มเปิดตัวร้านอาหาร 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่นักล่าหมูกระทะ (ร่วมทุนกับเครือชินคันเซ็น ซูชิ) ขยายไปแล้ว 6 สาขา และ คีอานิ (KIANI) ร้านอาหารเกาหลีจากทองหล่อ ที่ร่วมทุนและนำมาเปิดสาขาที่เซ็นทรัล พระราม 9 นอกจากนี้ยังเปิดรูปแบบร้านแบบใหม่ เช่น KFC Digital Store, Ootoya Dessert Café, ชินคันเซ็น ซูชิ แบบสายพาน และเมนูใหม่โปรโมชันสร้างกระแสในตลาด เช่น หนังไก่แซ่บ KFC, โฮลี่ชีสไวท์ทรัฟเฟิล อานตี้ แอนส์ และ คัตสึยะ x วันพีซ เป็นต้น

นอกจากนี้ CRG ได้วาง 4 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนธุรกิจทั้งนี้ ในปีนี้ได้กำหนดแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Empowering EXCELLENCE, Embracing SUSTAINABILlTY  ประกอบด้วย 

• GROW : เติบโตด้วยศักยภาพ เน้นการเพิ่มยอดขายจากการเร่งขยายสาขาใหม่ โดยเฉพาะแบรนด์ยอดนิยมในเครือที่มีศักยภาพ เช่น “เคเอฟซี” “อานตี้ แอนส์” “โอโตยะ” “คัตสึยะ” “ส้มตำนัว” “สลัดแฟคทอรี่” “ชินคันเซ็น ซูชิ” ตั้งเป้าทั้งปี 2567 รวมไม่น้อยกว่า 100 สาขา 
• DRIVE : ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ภายใต้ 3C Actions ได้แก่ Cost บริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงาน, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ Cash Flow การบริหารกระแสเงินสด ตลอดจนการลงทุนให้มีความคล่องตัวมากขึ้น  โดยมีแผนเข้าสู่การเป็น Smart Restaurant อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการร้านอาหารมากขึ้น 

•  BUILD : เสริมสร้างความแข็งแกร่ง เล็งเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญในกลุ่ม Joint Venture Partner โดยตั้งเป้าขยายมากกว่า 25 สาขา พร้อมเฟ้นหาแบรนด์ที่มีศักยภาพในการเติบโต ร่วมสร้างแบรนด์ดิ้ง เพื่อเสริมความแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอ ซึ่งตามแผนงานบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มอีก 2-3 แบรนด์ในปีนี้ ภายใต้ CRG Ecosystem ให้พันธมิตรร่วมกันเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน 
•  EXPEDITE : ผลักดันความยั่งยืนทุกมิติ หนึ่งในพันธกิจสำคัญด้านความยั่งยืนโดยมี C-R-G เป็น 3 แกนหลัก ได้แก่ Care for People & Partner  การดูแลบุคลากร และ พันธมิตรด้านธุรกิจ เปิดกว้างรับความหลากหลายของพนักงานเข้าทำงานทั้งด้านเพศ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เพื่อสร้างความเท่าเทียม และ Reduce Greenhouse Gases มุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานทดแทน สุดท้ายGreen Waste & Environment ลดปริมาณขยะอาหารที่เกิดจากการใช้วัตถุดิบในกระบวนการผลิตอาหาร บริษัท สามารถควบคุมปริมาณขยะอาหารให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1%