“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

10 ม.ค. 2567 | 14:46 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ม.ค. 2567 | 16:30 น.

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ลงนาม MOU เปิดธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ หนุนกิจกรรมโลจิสติกส์-ขนส่งระหว่างประเทศ หวังตอบสนองความต้องการผู้นำเข้า-ส่งออก ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันเวทีโลก

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า สำหรับพิธีเปิดธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ : New Business Model of Bangkok Port ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง กทท. กับบริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ การส่งเสริมกิจกรรมการนำเข้าตู้สินค้าขาเข้าผ่านเรือลำเลียงและกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจและพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง กทท. และบริษัท บ็อกซ์แมน จำกัด ผู้กระทำการแทนบริษัท Oknha Mong Port ราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้ชื่อ การส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก และกิจกรรมการขนส่งตู้สินค้าถ่ายลำ (Transshipment) ผ่านท่าเรือกรุงเทพ และสามารถส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ทั้งทางเรือ และรถไฟ

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

ทั้งนี้กทท. มีนโยบายในการส่งเสริมการสร้างกิจกรรมใหม่เพื่อยกระดับการให้บริการ สนับสนุนการค้าการลงทุน อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้นำเข้า-ส่งออก ให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้มากขึ้น ท่าเรือกรุงเทพได้มีโครงการต่างๆ ที่สามารถทำให้ท่าเรือกรุงเทพพัฒนาเป็น Hub ที่สำคัญของประเทศได้อย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับภาคเอกชน ประกอบด้วย

 

 1. โครงการท่าเรือพันธมิตร (Chao Phraya Super Port Project) เป็นความร่วมมือระหว่าง กทท. และ บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการนำเข้าตู้สินค้าขาเข้าจาก บริษัทสหไทยฯ มาที่ท่าเรือกรุงเทพ โดยเรือชายฝั่ง (Barge) เข้าเทียบท่าที่ท่า 20 G เพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการจราจรทางบก ลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งของผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศให้ได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปสู่กระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่อไปได้ สำหรับโครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีปริมาณตู้สินค้าเพิ่มขึ้น 10,000 TEU ต่อปี หรือประมาณ 35-40 ล้านบาท

2. โครงการส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก และกิจกรรมการขนส่งตู้สินค้าถ่ายลำ (Transshipment) ผ่านท่าเรือกรุงเทพ เป็นการส่งเสริมการนำเข้าและส่งออกและกิจกรรมการขนส่งตู้สินค้าถ่ายลำผ่านท่าเรือกรุงเทพ ไปยังประเทศที่สามทั้งทางเรือและรถไฟ เป็นความร่วมมือระหว่าง กทท. และบริษัท บ็อกซ์แมน จำกัด ซึ่งเป็นผู้กระทำแทน บริษัท Oknha Mong Port ประเทศกัมพูชา โครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนนโยบายโลจิสติกส์ของประเทศ (Shift mode) โดยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางน้ำและทางราง ทดแทนการขนส่งทางถนน การลงนามบันทึกความเข้าใจจะเป็นการส่งเสริมกิจกรรมฯ ให้มีความต่อเนื่องของเที่ยวเรือและเป็นเส้นทางเดินเรือที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการขนส่งตู้สินค้าระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในอนาคตและสร้างรายได้เพิ่มให้แก่องค์กรในระยะยาว

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

3. โครงการเขตปลอดอากรท่าเรือกรุงเทพ Bangkok Port Free Zone เป็นการให้บริการใหม่ของท่าเรือกรุงเทพ บนพื้นที่ดำเนินการ จำนวน 24,000 ตารางเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนในการนำเข้าส่งออก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว สามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กทท. กรมศุลกากร หน่วยงานเอกชน (บริษัท สปีดิชั่น ซิกม่า จำกัด)

 

สำหรับรูปแบบการดำเนินงาน คือ กทท. เป็นเจ้าของพื้นที่และเอกชนเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการโครงการฯ โดยให้บริการคลังสินค้า ลานกองเก็บตู้สินค้า สำนักงานให้เช่า ห้องจัดแสดงสินค้า ห้องควบคุมอุณหภูมิห้องเก็บสินค้าที่มีมูลค่าสูง สำหรับกิจกรรมในเขตปลอดอากรประกอบด้วย การยกเว้นอากรขาเข้า การซื้อขายแลกเปลี่ยน การคัดแยกประเภทสินค้า การบรรจุหีบห่อและการติดฉลากใหม่ การรวมสินค้า และสามารถจัดเก็บสินค้าได้นาน 2 ปี

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

 ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าขาเข้า - ขาออก เพิ่มความสะดวกในการดำเนินพิธีการตรวจปล่อยสินค้า สนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ยกระดับการให้บริการ เพิ่มปริมาณสินค้าผ่านท่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาคประเทศจากประเทศคู่ค้าเพื่อกระจายไปยังประเทศต่าง ๆ

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ท่าเรือกรุงเทพยังมีแผนงานที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางด้านโลจิสติกส์และการขนส่งระหว่างประเทศอีกหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตก ทกท. เป็นท่าเรือกึ่งอัติโนมัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ซึ่งได้มีการนำระบบ Semi Automation มาใช้ในการให้บริการขนถ่ายตู้สินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ 

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าอาคารสำนักงาน (Multimodal Transport & Distribution Center) และพื้นที่สนับสนุนท่าเรือกรุงเทพ เพื่อใช้พื้นที่ของท่าเรือกรุงเทพให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังสามารถสร้างกิจกรรมใหม่ในอนาคตเพิ่มมากขึ้นได้ เป็นการยกระดับในการให้บริการ ตลอดจนมีโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านการจราจรของรถบรรทุกในการผ่านท่าเรือกรุงเทพ อีกทั้งยังเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรให้กับกรุงเทพมหานครในอนาคต

 

ส่วนแผนงานด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นอีกหลายระบบ โดยเฉพาะระบบหลักในการปฏิบัติงานและให้บริการ เช่น ระบบควบคุมการผ่านเข้า-ออก ประตูตรวจสอบอัตโนมัติ (e-Gate), ระบบ Port Community System, ระบบปฏิบัติการเรือและสินค้าเวอร์ชั่นใหม่และระบบสนับสนุนงานให้บริการอื่นๆ อีกหลายรายการ อาทิเช่น ระบบอีดีโอ ระบบช่วยค้นหาและแสดงผลตำแหน่งตู้สินค้าอัตโนมัติ ฯลฯ

“กทท.” จับมือ 2 เอกชน ปลุกธุรกิจใหม่ท่าเรือกรุงเทพ

 “กทท. เตรียมมุ่งไปสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง ด้วยการบริหารจัดการท่าเรือให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวดเร็ว สามารถตอบสนองความต้องการผู้ลงทุนและผู้ประกอบการด้านการนำเข้า-ส่งออก เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการขนส่งและกระจายสินค้าของประเทศ รวมถึงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ อันเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้าและระบบโลจิสติกส์ทั้งภายในและในภูมิภาคเพื่อรองรับต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการในอนาคต และองค์กรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”