นายกฯพบ “อันวาร์” ด่านสะเดา วันนี้ ร่วมมือพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย

27 พ.ย. 2566 | 06:50 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ย. 2566 | 07:10 น.

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดพบหารือนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันนี้ (27 พ.ย.) เพื่อกระชับความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ผลักดันเป้าหมายการค้า-การลงทุน-การท่องเที่ยว

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พบหารือและเยี่ยมพื้นที่ชายแดนร่วมกัน ณ อำเภอสะเดา จ. สงขลา ในวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2566) เพื่อผลักดัน ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย

โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยว่า การพบหารือในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคม 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะด้านการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเกี่ยวกับการเร่งรัดโครงการความเชื่อมโยงที่สำคัญบริเวณชายแดนเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศ ได้แก่

  1. การสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรแห่งใหม่ที่สะเดา-บูกิต  กายู ฮิตัม
  2. การเร่งรัดสร้างสะพานแห่งที่สองที่สุไหงโกลก-รันเตาปันยัน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศจะร่วมกันสำรวจโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และนายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย

ผู้นำไทยและมาเลเซียเห็นพ้องกันในการผลักดันการค้าชายแดน และกระชับความร่วมมือในทุกด้าน

 

  • ด้านการท่องเที่ยว ภายหลังการเยือนมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนตุลาคม 2566 รัฐบาลไทยได้มีมาตรการที่สำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยได้ยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 ชั่วคราวสำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติ ณ ด่านสะเดา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 30 เมษายน 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวมาเลเซียสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น  โดยตั้งแต่เริ่มมาตรการนี้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางผ่านด่านสะเดาเพิ่มขึ้นกว่า 64% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
  • ด้านความมั่นคงบริเวณชายแดน รัฐบาลของสองประเทศได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ในบริเวณพื้นที่ชายแดน อาทิ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชายแดน

ทั้งนี้ ด่านศุลกากรสะเดา เป็นด่านการค้าชายแดนที่มีปริมาณการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงที่สุดของประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยมากเป็นอันดับหนึ่งในปี 2565 มีจำนวนสูงถึง 2.7 ล้านคน โดยมากกว่า 1 ใน 3  เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางด่านสะเดา

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยวานนี้ (26 พ.ย.) ว่า ผู้นำไทยและมาเลเซียเห็นพ้องกันในการผลักดันการค้าชายแดน การแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดา รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และประเด็นความร่วมมืออื่น ๆ ให้มีผลคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ซึ่ง มาเลเซียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย และเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยในอาเซียน โดยตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการค้าให้บรรลุเป้าหมายที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 โดยการค้าระหว่างกันส่วนใหญ่เป็นการค้าชายแดนและผ่านแดน

การค้าชายแดนไทย - มาเลเซีย ในปี 2565 มีมูลค่า 336,125 ล้านบาท คิดเป็น 31.76% ของมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่วนใหญ่ผ่านด่านศุลกากรสะเดา ปาดังเบซาร์ เบตง และสุไหงโก-ลก ตามลำดับ นอกจากนี้ ในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยมากเป็นอันดับที่ 1 ทั้งปีมากกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็นลำดับ 1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ทำให้มาเลเซียนับเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญและมีความสัมพันธ์หลากหลายมิติกับไทย

“การพบหารือของนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียบริเวณชายแดนด่านสะเดา สะท้อนความตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทยและมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความเชื่อมโยงในการเดินทาง รวมถึงการค้าขายบริเวณชายแดนระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเพื่อประโยชน์โดยตรงของประชาชนไทยและมาเลเซีย ทั้งการค้า ลงทุน การท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ และทางด้านสังคม การไปมาหาสู่ระหว่างกัน” นายชัย กล่าว

สำหรับกำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 นั้น ในเวลา 8.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจะเดินทางไปถึงด่านสะเดาแห่งใหม่เวลา 11.00 น. เพื่อให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมหารือทวิภาคี และรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และสถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำไทย-มาเลเซีย จะร่วมกันสำรวจเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ โรงแรม Vista ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปตรวจราชการ จ.สุโขทัย ติดตามโครงการป้องกันอุทกภัย พร้อมร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในช่วงเย็นวันนี้