ระส่ำ!จ่อล้มแผนสร้างศูนย์ประชุมภูเก็ต หาดไม้ขาว ผุดเป็นศูนย์กักกันโรค

31 ต.ค. 2566 | 12:03 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2566 | 12:21 น.

ระส่ำ!จ่อล้มแผนสร้างศูนย์ประชุมภูเก็ต หาดไม้ขาว ผุดเป็นศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ (World Class Quarantine Tourism Center) แทน เอกชนสุดทนเดินหน้าคัดค้านเต็มที่ ยันภูเก็ตต้องมีศูนย์ประชุม หลังรอกันนานเกิน 20 ปีแล้ว

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่าล่าสุดคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คณะที่ 13 ด้านนักท่องเที่ยวปลอดภัย มีมติยกเลิกแผนการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก บริเวณหาดไม้ขาว ไปสร้างเป็นศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ (World Class Quarantine Tourism Center) แทน

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม

ทั้งนี้โครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เป็นที่ดินราชพัสดุ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ใช้ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยตามแผนเดิมของโครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เมื่อตอนจังหวัดภูเก็ตได้ยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพงาน Specialised Expo 2028 ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จะประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขครบวงจร ศูนย์อภิบาลผู้สูงอายุ พื้นที่สาธารณะ Ecological Park และศูนย์ประชุมนานาชาติ

โครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก บริเวณหาดไม้ขาว

โดยก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีเคยอนุมัติ 1,411 ล้านบาทมาไว้สำหรับการก่อสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติ เมื่อตอนไปยื่นประมูลเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โป ภูเก็ต 2028 แต่เมื่อประมูลไม่ได้ก็จะแบ่งงบ 150 ล้านบาทมาสร้างศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติแทน ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไร

เพราะโรคระบาดแบบโควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี และภาคเอกชนและประชาชนในภูเก็ต ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ภูเก็ตต้องมีศูนย์กักกันโรคนักท่องเที่ยวนานาชาติ (World Class Quarantine Tourism Center) แต่อย่างใด เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว และการผลักดันสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่ภูเก็ต ก็พูดกันมานานเกินกว่า 20 ปีแล้ว

ศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.ภูเก็ต

 

ดังนั้นเมื่อแผนการก่อสร้างศูนย์ประชุมถูกบรรจุเป็นหนึ่งในโครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกแล้ว ก็ควรเดินหน้าต่อ เพราะในอนาคตหากเกิดโรคระบาดเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้โรงแรมต่างๆในภูเก็ตก็สามารถใช้เป็นสถานที่กักตัวได้อยู่แล้ว ซึ่งก็มีประสบการณ์กันอยู่เมื่อครั้งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่หากกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าจำเป็นที่ภูเก็ตต้องมีศูนย์กักกันโรคนักท่องเที่ยวนานาชาติ ก็ขอให้เปิดทำประชาพิจารณ์ ซึ่งเชื่อว่าคนภูเก็ตไม่เห็นด้วยแน่นอน  

 

หรือถ้าสธ.ยังยืนว่าต้องมีศูนย์กักกันโรค ทางโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ก็เสนอให้ย้ายไปใช้พื้นที่บริเวณสวนป่าบางขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแทน แต่ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คณะที่ 13 ด้านนักท่องเที่ยวปลอดภัย ก็ยืนยันว่าจะใช้พื้นที่แปลงไม้ขาว

“ถ้ากระทรวงสาธารณสุขไม่มีความสามารถในการทำให้ภูเก็ตดีขึ้นจากที่ดินแปลงไม้ขาวนี้ ก็น่าจะคืนกรมธนารักษ์ไป ให้คนอื่นรับไปดูแลแทน เพราะตอนนี้มีหลายหน่วยงานอยากเข้ามาดูแล เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยากรับพื้นที่นี้ไปดูแลเพื่อนำมาพัฒนาศูนย์ประชุมนานาชาติ

เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ไม่ศูนย์ประชุมนานาชาติ ทำให้ที่ผ่านมาเมื่อมีความต้องการจัดประชุมขนาดใหญ่จากหลายประเทศ ภูเก็ตกลับไม่มีพื้นที่รองรับได้ ทำให้ผู้จัดงานต้องเปลี่ยนไปจัดที่กรุงเทพฯ รวมถึงประเทศอื่นๆ อย่างสิงคโปร์ และมาเลเซียแทน” นายภูมิกิตติ์ กล่าว

จากมติของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คณะที่ 13 ด้านนักท่องเที่ยวปลอดภัย สร้างความกังวลให้แก่เอกชนในภูเก็ตเป็นอย่างมาก ทางทีมเอกชนภูเก็ตจึงเตรียมขอเข้าพบ นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านมติคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คณะที่ 13 

รวมไปถึงทางทีมเอกชนภูเก็ตกำลังจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกลุ่มจังหวัดอันดามัน (กรอ.อันดามัน) และเสนอต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้หากลไกภาครัฐมาขับเคลื่อนให้เกิดการก่อสร้างศูนย์การประชุมนานาชาติ ในพื้นที่บริเวณหาดไม้ขาว

เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีความต้องการจัดประชุมขนาดใหญ่จากหลายประเทศ ภูเก็ตกลับไม่มีพื้นที่รองรับได้ ทำให้ผู้จัดงานต้องเปลี่ยนไปจัดที่กรุงเทพฯ รวมถึงประเทศอื่นๆ อย่างสิงคโปร์ และมาเลเซียแทน เมื่อถึงเวลาจังหวัดภูเก็ตต้องออกไปประมูลสิทธิ์ในการจัดงานนานาชาติก็จะมีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีศูนย์ประชุมนานาชาติรองรับ

ทั้งที่ภูเก็ตเป็นไมซ์ซิตี้ (MICE City) พร้อมต้อนรับนักเดินทางกลุ่มจัดประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และงานแสดงสินค้า (MICE) จะเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) หรือรัฐมีแนวทางลงทุนอย่างไรก็แล้ว ซึ่งภูเก็ตมีความจำเป็นต้องมีศูนย์ประชุม ไม่ใช่ศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ (World Class Quarantine Tourism Center)