ท่องเที่ยวไตรมาส 4 คึกคัก โรงแรม 4-5 ดาว อัพราคาสูงเกินก่อนเกิดโควิดแล้ว

28 ต.ค. 2566 | 09:55 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2566 | 09:55 น.

ท่องเที่ยวไตรมาส 4 ปีนี้คึกคัก ททท.คาด 3 เดือนสุดท้ายต่างชาติเข้าไทยเกิน 2.5 ล้านคนต่อเดือน เที่ยวบินระหว่างประเทศตารางบินฤดูหนาว กลับมากว่า 60% แล้ว เอกชนประเมินทั้งปีมีลุ้น 27 ล้านคน โรงแรมระดับ 4-5 ดาวส่วนใหญ่ ปรับราคาห้องพักสูงเกินกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดไปแล้ว

เป้าหมายการท่องเที่ยวในปี2566 ททท.ตั้งเป้าการสร้างรายได้รวมอยู่ที่ 1.25-2.38 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว 25-28 ล้านคน ซึ่งล่าสุด (ณ วันที่ 15 ต.ค.66) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยแล้ว 21 ล้านคน รายได้ 882,450 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อดูจากสถานการณ์ในขณะนี้ ซึ่งไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงไฮซีซันต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีนี้ จึงทำให้การท่องเที่ยวของไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องตามเป้า  

ท่องเที่ยวไตรมาส 4 คึกคัก โรงแรม 4-5 ดาว อัพราคาสูงเกินก่อนเกิดโควิดแล้ว

เที่ยวบินเข้าไทยกลับมากว่า 60% แล้ว

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เมื่อดูจากสถานการณ์ขณะนื้ททท.มั่นใจว่าในปีนี้ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ 25-28 ล้านคนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้   เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้าเป็นช่วงไฮซีซัน

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

โดยเฉพาะเดือน ต.ค.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ส่วนเดือน พ.ย.-ธ.ค. คาดมีเกิน 2.5 ล้านคนต่อเดือน หลังจากภาพรวมปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 ปัจจุบันพบว่ากลับมากว่า 60% แล้ว

ทั้งนี้ตลาดที่ฟื้นตัวกลับมาอย่างโดดเด่นเกิน 80-90% เทียบกับเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด จะมีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ส่วนตลาดอื่นๆ ที่มีการเติบโตดีกว่ายุคก่อนโควิดคือ ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงอิสราเอลที่ประเมินว่าจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวตามเป้าหมาย 2 แสนคนในปีนี้

ประกอบกับมาตรการวีซ่าฟรีจีนและคาซัคสถาน ที่จะมีผลไปจนถึงวันที่ 29 ก.พ.ปีหน้า และการขยายระยะเวลาพำนักในไทยของนักท่องเที่ยวรัสเซียจากเดิม 30 วันเป็น 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.66-30 เม.ย.67 จะยังช่วยกระตุ้นให้รัสเซียเดินทางเข้าไทยช่วงไฮซีซันนี้มากขึ้น

สถิตินักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย ปี 2566

อีกทั้งล่าสุดททท.ได้ร่วมลงนาม(LOI)ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับ 8 พันธมิตรชั้นนำของจีน  ได้แก่

  • หัวเว่ย, IQIYI
  • Trip.com
  • Spring Airlines (สายการบินจีนทีมีเส้นทางบินในประเทศไทยมากที่สุด)
  • Meituan.com (แอปพลิเคชั่นรีวิว)
  • Jego Trip (แพลตฟอร์มท่องเที่ยวภายใต้ China Mobile)
  • Sina Cooperation (บริษัทสื่อออนไลน์และเทคโนโลยี มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านแอคเคาท์ทั่วโลกและเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม weibo)
  • Alipay ผู้ให้บริการออนไลน์แบงค์กิ้งบริษัทลูกของอาลิบาบา มีผู้ใช้มากกว่า 600 ล้านคนในจีน ท่องเที่ยวไตรมาส 4 คึกคัก โรงแรม 4-5 ดาว อัพราคาสูงเกินก่อนเกิดโควิดแล้ว

ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และร่วมกันส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีนคุณภาพสูงเข้าไทย  ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 4 ล้านคนจากที่เดินทางเข้ามาแล้วรวมกว่า 2.64 ล้านคน (ณ วันที่ 15 ต.ค.66)

ท่องเที่ยวไตรมาส 4 คึกคัก โรงแรม 4-5 ดาว อัพราคาสูงเกินก่อนเกิดโควิดแล้ว

ททท.จัดบิ๊กอีเว้นท์กระตุ้นท่องเที่ยวส่งท้ายปี

นอกจากนี้การจัดกิจกรรมหรืออีเว้นต์ให้มีสเกลที่ใหญ่ขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่จะเน้นใน 4 อีเว้นท์หลักช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ได้แก่ เทศกาลลอยกระทง ที่ ททท.เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ที่คลองผดุงกรุงเกษม งานวิจิตรเจ้าพระยา แสดงแสงสีเสียง ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธ.ค. 2566 งานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบ็งค็อก ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ และการจัดงานเคาน์ดาวน์ ที่ททท.จะจัดขึ้นที่วัดอรุณฯ และร่วมกับเอกชนจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่

ส่วนในปีหน้าททท.ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทย 200 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3 ล้านล้านบาท ภายใต้ 4 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การยกระดับประเทศด้วยการท่องเที่ยว ผนึกพันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมทำตลาดแบบ 360 องศา

โดยสนับสนุนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และธุรกิจบริการในเมืองหลักและเมืองรอง ในแต่ละมิติให้ตอบโจทย์ 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน หรือ Thailand All Year Round  การกระตุ้นดีมานด์ ยกระดับซัพพลายรองรับการท่องเที่ยว พร้อมรุกใช้เทคโนโลยีสร้างดิจิทัล เจอร์นีย์ เจาะกลุ่ม Sub-Culture สร้างแฟนด้อมเมืองไทย ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ

แอตต้าลุ้นนักต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้ 27 ล้านคน

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ ล่าสุดทะลุเป้าหมาย 25 ล้านคนแน่นอนแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเดือนละ 2 ล้านคน ทั้งปีน่าจะได้ใกล้เคียง 27 ล้านคน แต่จะทะลุถึงเป้าหมายขึ้นสูงสุดที่ 28 ล้านคนหรือไม่ ต้องดูอีกที

อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์

เนื่องจากทุกตลาดมีแนวโน้มเติบโตดี ยกเว้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน เพราะน่าจะได้ที่ราว 4 ล้านคน ประกอบกับช่วงไฮซีซันนี้รัฐออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวสำหรับต่างชาติ  เช่นวีซ่าฟรีจีน ขยายเวลาพำนักนักท่องเที่ยวรัสเซีย 

ส่วนสงครามอิสราเอลและฮามาส ยังต้องจับตาดู เพราะถ้าไม่ขยายวงกว้าง ก็ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งดูแนวโน้มขณะนี้ก็ยังไม่มีผลอะไร และในปีนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 35 ล้านคนตามเป้าหมาย

โรงแรม 4-5 ดาวอัพราคาสูงเกินปีก่อนเกิดโควิดแล้ว

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)  กล่าวว่า การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ทำให้โรงแรมบางส่วนสามารถปรับราคาห้องพักได้สูงกว่าก่อนโควิด-19 แล้ว โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป แต่โรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวยังปรับราคาได้จำกัด

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

อีกทั้งหากพิจารณารายภาคพบว่าโรงแรมในภาคใต้และภาคตะวันออก ส่วนใหญ่ปรับราคาห้องพักได้มากกว่าโรงแรมในภูมิภาคอื่น สวนทางกับราคาห้องพักของโรงแรมส่วนใหญ่ในภาคเหนือที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด ขณะที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังใกล้เคียงเดิม

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจโรงแรมของ AWC ในช่วงไตรมาส4 ปีนี้มีแนวโน้มดีมาก เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน

วัลลภา ไตรโสรัส

โดยจะเห็นว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ย รวมถึงรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากว่า 4 ปี ทั้งนี้สิ่งที่เห็นคือนักท่องเที่ยวจ่ายค่าห้องสูงขึ้น 15% สูงสุด 49% เทียบกับก่อนปี 2562 และพักยาวขึ้นด้วย

แม้ยังมีความผันผวนจากสถานการณ์โลก เหตุกราดยิงที่สยามพารากอนล่าสุดเหตุความไม่สงบที่ประเทศอิสราเอล แต่อัตราเข้าพักของโรงแรมในเครือยังดีต่อเนื่อง ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหรือผลกระทบที่เกิดขึ้น อาจจะมียกเลิกการเข้าพักโรงแรมย่านสาทรบ้างแต่เป็นกรุ๊ปเล็ก หลังเกิดเหตุการณ์ที่สยามพารากอน แต่ในขณะนี้ยอดการจองก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

ทั้งนี้ที่ธุรกิจโรงแรมของ AWC ที่ไปได้ดี เป็นเพราะเราจับกลุ่มนักท่องเที่ยวกระจายหลายประเทศ และเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทำให้เรายังไม่กระทบมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเราเป็นอเมริกา 14-15% และจีน 11% แม้จะลดลงจากเดิมที่เคยอยู่ที่ 16% แต่ยังมีเข้ามา ส่วนอิสราเอล ไม่ใช่ตลาดหลักของ AWC