“สยามพิวรรธน์” ทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ปักหมุดบุกเอเชีย

19 ก.ย. 2566 | 17:25 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2566 | 17:31 น.

“สยามพิวรรธน์” จัดทำยุทธศาสตร์ 5 ปี ขยายธุรกิจบุกต่างประเทศ พร้อมตั้งบริษัทที่ปรึกษา ปรับโครงสร้างวางแผนการเงิน จ่อเข้าตลาดหุ้น เผยผลประกอบการ 6 เดือนแรก รายได้เติบโตกว่า 25% ขณะที่ตัวเลขนักช้อปทะลุ 45 ล้านคน เติบโตกว่า 50%

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้เติบโตกว่า 25% จากปีที่ผ่านมา

ขณะที่จำนวนผู้เข้าใช้บริการที่ศูนย์การค้าในกลุ่มวันสยาม ประกอบด้วย สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่  มีจำนวน 45 ล้านคน เติบโตกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา

ส่วนไอคอนสยามซึ่งเป็นโครงการที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นโครงการที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการเมืองที่รวบรวมความครบครันของการช้อปปิ้ง เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ศิลปวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกสบาย  โรงแรมและคอนโด ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ รองรับด้วยการสัญจรที่เชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ชฎาทิพ จูตระกูล

อีกทั้งเป็นจุดหมายสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้อยากมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากนั้น  ปัจจุบันไอคอนสยามมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 1 แสนคนต่อวัน และใน 6 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนผู้ที่มาใช้บริการในไอคอนสยามทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกัน 15.5 ล้านคน เติบโตถึง 70% จากปีก่อน

"ปัจจุบันวงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก เริ่มมีการตื่นตัวหลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด 19 ทั้งนี้ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ได้รับการติดต่อจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับต้นๆ จากหลายประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์การค้าต่างๆ ของสยามพิวรรธน์เป็นจำนวนมาก ได้แสดงความประสงค์ที่จะให้สยามพิวรรธน์ไปร่วมลงทุน เพื่อสร้างโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย

“สยามพิวรรธน์” ทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ปักหมุดบุกเอเชีย

ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ซึ่งนอกจากจะมีแผนการลงทุนภายในประเทศแล้ว คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบที่จะศึกษาการขยายธุรกิจไปต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำแผนเสร็จสมบูรณ์และประกาศได้ต้นปี 2567 ซึ่งแผนลงทุนดังกล่าว จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่ประสบความสำเร็จและมีความสำคัญระดับโลก (World-class Destination)”

นางชฎาทิพ กล่าวอีกว่า เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์และการขยายธุรกิจระยะยาว บริษัทได้ลงนามแต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยปรับโครงสร้างและวางแผนทางการเงิน ศึกษาเรื่องการระดมทุนที่เหมาะสม รวมทั้งความเป็นไปได้ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

“สยามพิวรรธน์” ทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ปักหมุดบุกเอเชีย

“การที่สยามพิวรรธน์ได้รับการทาบทามให้ไปร่วมลงทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในหลายประเทศนั้น ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งและเป็นบทพิสูจน์ว่า งานของสยามพิวรรธน์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยด้วยคอนเซปต์แปลกใหม่และเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศ

สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในสาขาต่างๆ บนเวทีโลก สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน และล้วนแต่เป็นโครงการที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยตลอดมา   ในวันนี้สยามพิวรรธน์พร้อมแล้วที่จะก้าวออกไปต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศด้วยความมั่นใจ”