"เศรษฐา" ประกาศเร่งพักหนี้เกษตรกร ครู ตำรวจ คาดเริ่มเร็ว ต.ค.นี้

วันนี้ (1 กันยายน 2566) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายการพักหนี้เกษตรกรว่า ล่าสุดได้มอบหมายให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปดูเรื่องของขั้นตอนต่าง ๆ โดยประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง คาดว่าน่าจะทำได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 นี้ เพราะเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย 

"กำลังพิจารณารายละเอียดว่าจะพักหนี้จำนวนเท่าไร นานเท่าไรและอย่างไร แต่จะมีการพักทั้งต้นและดอก หลักการคือเราต้องการให้พี่น้องเกษตรกรมีเวลาไปพื้นฟูตัวเอง ไปทำมาหากินโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องหนี้สิน จะได้มีขวัญและกำลังใจในการรายได้" 

ขณะเดียวกันในการดำเนินมาตรการพักหนี้นั้น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ยังได้หารือกับทางสถาบันจัดอับดับหนี้ ซึ่งดูแลหนี้สินทั้งหมดของประชาชน จึงไม่ได้ดูแลแค่พี่น้องเกษตรกรอย่างเดียว แต่ยังจะดูแลครู ตำรวจและผู้ที่ประสบภัยพิบัติในช่วงโควิด-19 (หมวด 21) ที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย

ดังนั้นจึงขอเวลาในการพิจารณา แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะดูแลให้ครบทุกภาคส่วนเพื่อให้คนไทยทุกคนที่ประสบปัญหาได้มีขวัญและกำลังใจกลับมาทำงานอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลดหนี้ชั่วคราวเป็นการบรรเทาความทุกข์ เป็นการฟื้นฟูจิตใจให้มีขวัญและกำลังใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการเพิ่มรายได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือเราจะพยายามเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งก็ต้องเร่งทำ

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีการประสานมายัง ธ.ก.ส. ถึงนโยบายการพักหนี้เกษตรกรของรัฐบาลใหม่แล้ว ซึ่งธนาคารก็ได้มีการเตรียมข้อมูลและรายละเอียดของลูกค้าไว้ ทั้งข้อมูลกลุ่มธุรกิจ อายุ มูลหนี้ และอุตสาหกรรมแต่ละประเภท

อีกนี้ ยังได้เตรียมข้อมูลไว้เสนอรัฐบาลว่าเมื่อดำเนินการแล้ว สิ่งที่กระทบกับแบงก์มีอะไรบ้าง เช่น​ จะพักชำระหนี้เฉพาะเงินต้น​ หรือ​พักชำระทั้งดอกเบี้ย ซึ่งส่วนนี้จะกระทบกระแสเงินสด​ ถ้าเกิดพักชำระเงินต้นแต่ดอกเบี้ยไม่เดินหน้าจะกระทบงบการเงินของธนาคาร​

"ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลว่าจะมีการพักหนี้เฉพาะเงินต้น หรือพักดอกเบี้ยด้วย หากพักดอกไม่เดินจะกระทบงบการเงินของธนาคาร ซึ่งจะต้องคุยรายละเอียดร่วมกันอีกครั้ง โดยธนาคารมีฐานข้อมูลที่เตรียมไว้ เช่น จำนวนลูกค้าดอกเบี้ย และอายุแล้ว แต่ต้องคุยกระทรวงการคลังว่าหากดำเนินการจะมีผลอะไรบ้าง ทั้งมิติลูกค้ากระแสเงินสด และหนี้เสียด้วย"

สำหรับนโยบายพักหนี้เกษตรกรนั้น ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอาไว้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญเมื่อช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง โดยจะพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งเงินต้น ทั้งดอกเบี้ยทันที เพื่อลดภาระในการทำมาหากินของเกษตรกร 

โดยจะทำควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปีด้วยหลัก ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ด้วยการสร้างทางเลือกให้เกษตรกรเพื่อผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ เปิดตลาดใหม่เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าให้เกษตรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ 

พร้อมสร้างความแม่นยำในการเพาะปลูกเพื่อเพิ่มจำนวนและคุณภาพของผลผลิต และใช้นวัตกรรม Blockchain เพื่อประกันราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกรด้วยการให้ราคาผลผลิตที่เกษตรกรควรได้รับด้วย