ตุลาการ ยืนคำสั่งศาลปกครองกลาง สั่งจ่ายหนี้ "สายสีเขียว" 1.1 หมื่นล้าน

18 ส.ค. 2566 | 19:20 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2566 | 19:25 น.
3.6 k

"ตุลาการ" ยืนคำสั่งศาลปกครองกลางสั่งกทม.-กรุงเทพธนาคม สั่งจ่ายหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้านบาท หลังเมินบีทีเอส กระทบเอกชนได้รับความเสียหาย

รายงานข่าวจาก ศาลปกครองสูงสุด ระบุว่า ในวันที่ 17 ส.ค.2566 ศาลปกครองสูงสุดมีกำหนดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี กับกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดี 2) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

 

คดีนี้ BTS ฟ้องว่ากรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญากรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือทวงถามให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย

สำหรับคดีนี้ตุลาการผู้แถลงคดีได้มีความเห็นให้ยืนตามศาลปกครองกลาง ที่มีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย โดยให้เหตุผลว่าคดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้ให้คู่ความสองฝ่ายชี้แจงพยานหลักฐานในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา และถือว่ามีข้อมูลครบถ้วนในการพิจารณา

 

 นอกจากนี้ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่าหนี้ตามที่ฟ้องมีการชำระมาแล้ว โดยรัฐไม่ได้ปฏิเสธหนี้สินและดอกเบี้ย ส่วนการระบุถึงกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการทำสัญญาจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงถึงเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ซึ่งยังไม่มีการสรุปว่าการทำสัญญาดังกล่าวถูกหรือผิด

ส่วนในประเด็นที่รัฐระบุถึงเหตุของการไม่ชำระหนี้ เพราะมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 เรื่องการดําเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกำหนดให้มีการเจรจาร่วมกับผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยในประเด็นนี้จะใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ชำระหนี้ไม่ได้

 

หลังจากนี้ตุลาการผู้แถลงคดีให้ความเห็นต่อคดีเรียบร้อยแล้วต่อไปศาลปกครองสูงสุดจะนัดอ่านคำพิพากษา

 

เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 ศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดีโดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด โดยแบ่งเป็น

 

1.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199 ล้านบาท

 

 2.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ภายหลังจากการทำสัญญา ผู้ฟ้องคดีได้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยายที่ 1 เรื่อยมา และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ชำระค่าจ้างรายเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดีครบถ้วนต่อเนื่องจนถึงเดือน เม.ย.2562 แต่หลังจากนั้นตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 ถึงเดือน พ.ค.2564 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงไม่ครบถ้วนเต็มจำนวน