ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคดีเบี้ยวหนี้สายสีเขียว 1.17 หมื่นล้าน 17 ส.ค.นี้

15 ส.ค. 2566 | 09:54 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2566 | 11:26 น.
1.2 k

จับตา คดีกทม.-กรุงเทพธนาคม เบี้ยวหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เมินจ่าย BTS 1.17 หมื่นล้าน นัดแรก “ศาลปกครองสูงสุด” พิจารณา 17 ส.ค.66 หลังศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาสั่งจ่ายภายใน 180 วัน

รายงานข่าวจากศาลปกครอง แจ้งว่า วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เวลา 09.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว 

 

สำหรับคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลว. 3 พ.ค.2555 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส. 024/59 ลว. 1 ส.ค.2559 กรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลว. 18 ก.ย.2563 และหนังสือ ลว. 15 ม.ค.2564 ทวงถามไปยังผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
 

ที่ผ่านมาศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348.66 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199.09 ล้านบาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการครั้งที่ 51/2566 รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406.42 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786.77 ล้านบาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

 

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ภายหลังจากการทำสัญญา ผู้ฟ้องคดีได้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยายที่ 1 เรื่อยมา และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ชำระค่าจ้างรายเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดีครบถ้วนต่อเนื่องมาจนถึงเดือน เม.ย.2562
 

นอกจากนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 - พ.ค.2564 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงไม่ครบถ้วนเต็มจำนวน ซึ่งตามสัญญาข้อ 71 กำหนดว่า หากผู้ถูกฟ้องคดที่ 2 ไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดไป ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะต้องชำระดอกเบี้ยสำหรับค่าจ้างที่ค้างชำระนั้นในอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา

 

เมื่อผู้ถูกฟ้องคดที่ 2 ไม่ชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงดังกล่าว จึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้แล้วโดยมิพักต้องเตือน ดังนั้นเมื่อรวมต้นเงินและดอกเบี้ยของหนี้ค้างชำระค่าเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส. 006/55 ลว. 3 พ.ค.2555 จึงมีหนี้เงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 2,348.66 ล้านบาท