นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยองค์การตลาด กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์เทศนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัท ดารัวินเทค โซลลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรของไทย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคช่วยกำหนดทิศทางให้มีความสมดุล โดยเบื้องต้นจะเน้นด้านการเกษตรอย่างเดียวก่อน ความสมดุลการผลิตและการบริโภค หรือความต้องการซื้อ ความต้องการขาย เนื่องจากในอดีตอาจจะต่างคนต่างทำ
อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้อจะเป็นองค์รวมด้านข้อมูล และราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ไม่เรียกหาประโยชน์เพราะเป็นหน่วยงานภาครัฐ โดยในช่วงแรกจะเริ่มต้นที่ภาคการเกษตรและการกระจายสินค้าสินค้าภายในประเทศตามเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย ระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ดูแลอยู่ โดยไม่มีการลงทุนใดเพิ่ม จะเป็นพื้นที่รอบด้านให้เกษตรกรได้นำมาเป็นประโยชน์ในการผลิตและขายสินค้าเพื่อการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงมีความน่าเชื่อถืออีกด้วย
ด้านองค์การตลาด จะส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าโอทอป ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ประชาชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรกร สถาบันการเกษตร สหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเปราะบาง ด้วยฐานข้อมูลทางการเกษตร และฐานข้อมูลการตลาดจากความต้องการซื้อชายสินค้าเกษตร
นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการองค์การตลาด (อต.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยอต.เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามกลุ่มเป้าหมาย SDGs เพื่อให้ประชาชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเปราะบาง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการรายย่อยมีรากฐานการดำรงชีวิตและพัฒนาสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง
จึงเป็นที่มาของแนวทางความร่วมมีอร่วมกันระหว่าง 4 หน่วยงาน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจำหน่ายสินค้า การกระจายสินค้าเกษตร เพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ โดยระบบดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงข้อมูลความต้องการผลผลิตจากโรงเรียน และชัอมูลผลผลิตทางการเกษตร/เกษตรกร พร้อมด้วยระบบ Logstics ในการติดตามสินค้า
ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการซื้อชายในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสจำหน่ายผลผลิตในราคายุติธรรม ช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ สินค้าล้นตลาด และมุ่งพัฒนาตลาดขององค์การตลาดให้เป็น Marketing and Tracing ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรเครือข่าย เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ให้เป็นคนดี คนเก่ง ประกอบอาชีพสุจริต สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ อต.ได้ร่วมมือกับ เนคเทค ในโครงการ Thai School lunch หรือระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ สามารถประมาณการค่าใช้จ่ายและวัตถุดิบล่วงหน้า ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ KidDiary ที่ครอบครัวสามารถเข้าถึงข้อมูลภาวะทางโภชนาการ และพัฒนาการของเด็กเชื่อมโยงร่วมกับระบบ Farm to School เพื่อจับคู่ความต้องการสินค้าทางการเกษตรของโรงเรียนกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ และกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับที่ได้มาตรฐานเพื่อบริหารจัดการผลผลิต สำหรับ Thai School Lunch ซึ่งโรงเรียนสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน
อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์มรวบรวมเมนูอาหารเพื่อให้โรงเรียนต่างๆ ใช้ประกอบการจัดทำเมนูอาหารกลางวันให้กับเด็กมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 มีเมนูอาหารให้เลือกมากกว่า 1,000 เมนู ให้แต่ละโรงเรียนนำไปใช้ในการจัดเตรียมอาหารกลางวันให้กับเด็กภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ แต่ยังทำให้เด็กได้สารอาหารที่เพียงพอ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. อปท. และ กทม. ไปจนถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศจำนวนมาก ตัวเลขปี 2565 อยู่ที่จำนวนกว่า 57,000 โรงเรียน
ดร.ชัย วุฒิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ได้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อยกระดับศักยภาพการบริการดิจิทัลของหน่วยงานพันธมิตร ด้วยการต่อยอดนวัตกรรมพร้อมใช้ 3 ผลงาน จากแพลตฟอร์มสำหรับโรงเรียน สู่การพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP รวมถึงการเชื่อมโยงร่วมกับระบบ Farm to School เพื่อจับคู่ความต้องการสินค้าทางการเกษตรของโรงเรียนกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่
และกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับที่ได้มาตรฐานเพื่อบริหารจัดการผลผลิต โดยร่วมขับเคลื่อน 2 กลไก คือ
นายพงษ์ศักดิ์ ติยานันทิ กรรมการบริษัท ดาร์วินเทค โซลูซันส์ (ประเทศโทย) กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP ดังกล่าว จะมุ่งใน 2 ส่วน ประกอบด้วย