"SCN" ผนึก "โอ้กะจู๋" ใช้พลังงานสะอาดดันโซลาร์เซลล์สู่ภาคเหนือ

19 ก.พ. 2566 | 12:46 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2566 | 12:46 น.

"SCN" ผนึก "โอ้กะจู๋" ใช้พลังงานสะอาดดันโซลาร์เซลล์สู่ภาคเหนือ มุ่งพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ทั้งสะอาดขึ้นผ่านนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียน

นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการให้ สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยรุกตลาดโซลาร์รูฟท็อป ภาคเหนือ โดยล่าสุดได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชนกับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (โอ้กะจู๋

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ทั้งสะอาดขึ้นผ่านนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียนของบริษัท อย่างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Energy ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตด้วยพลังงานสะอาด อย่างปลอดภัย และอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็สามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าไปได้ในแบบระยะยาว
 

ปัจจุบันค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสภาพมลพิษทางอากาศ วิกฤติฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพที่กำลังเจอกับปัญหานี้ ทางภาคเหนือของประเทศไทยก็ตกอยู่สถานการณ์เช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากต้องใช้ไฟฟ้าที่แพงแล้ว ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสภาพมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้า ซึ่งจากปัญหาสภาพสิ่งแวดล้อมข้างต้น ทำให้บริษัทเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนพลังงานสะอาดให้เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน 

นายดนุวงศ์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายและทิศทางของบริษัทในปี 66 ด้วยว่า บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เมกะวัตต์ เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าในระยะยาว จึงต่างมองหาทางเลือกแหล่งพลังงานใหม่ ทำให้ความต้องการติดตั้ง Solar Rooftop ขยายตัวเพิ่มขึ้น 

อีกทั้งเมื่อภาครัฐเริ่มเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น จึงทำให้ในปี 66 บริษัทเริ่มขยายตลาดไปยังทางภาคเหนือ พร้อมตั้งเป้าภายในปีนี้จะมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 110 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบุคลากรระดับคุณภาพ และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล เพื่อตอบสนองการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพตามความคาดหวังลูกค้า

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (โอ้กะจู๋) กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน ตลอดจนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวภาคเหนือต่อไปได้