ชี้เทรนด์สปอร์ตแวร์แรง‘เวคกิ้งบี’ปรับดีไซน์รับ
เทรนด์สปอร์ตแวร์สุดแรง “เวคกิ้งบี” ส่ง 6 คอลเลกชันรุกหนัก เผยไลฟ์สไตล์สาวยุคใหม่นิยมออกกำลังกายมากขึ้น เผยจับมือแต้ว-ณฐพร เป็นโค-ดีไซเนอร์ ส่ง “เวคกิ้งบี บาย แต้ว สวิม แอนด์ สเวท” รุกตลาดซัมเมอร์
นางสาวชลิตา หงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวคกิ้งบี จำกัด เจ้าของแบรนด์ชุดออกกำลังสำหรับผู้หญิง “เวคกิ้งบี” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายการทำตลาดนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการเปิดตัวชุดออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ชุดออกกำลังกายผู้หญิง “อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ” เน้นดีไซน์เน้นคอลเลกชันสปอร์ตแวร์ หรือ แอกทีฟแวร์เป็นหลัก แต่ดีไซน์ให้สามารถใช้ร่วมกับกิจกรรม อื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้ ตามเทรนด์โลก เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน ควบคู่กับการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ 6 ครั้งต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น มีไฮไลต์ คือ “WB bra” เป็นสินค้าซิกเนเจอร์ที่สำคัญ โดยปัจจุบันมี 10 สีให้เลือกซื้อ จากปกติที่เคยเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ 2-3 ครั้งต่อปี ที่ไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นและความต้องการชุดแฟชั่นในการออกกำลังกายมากขึ้น
“ในอดีตคนไทยมีชุดออกกำลังกายเพียง 2-3 ชุดต่อคน แต่จากแนวโน้มการออกกำลังกายที่มีมากขึ้น นิยมออกกำลังกายกันเป็นกลุ่ม การสร้างคอมมิวนิตีสำหรับคนออกกำลังกายแต่ละประเภท รวมไปถึงการอัพโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ก็มีผลให้คนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับชุดออกกำลังกายมากขึ้น และแต่ละคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายมีมากกว่า 3 ชุดแน่นอนในปัจจุบัน”
พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ ปีละ 1 ครั้ง ล่าสุดบริษัทได้จับมือกับนางเอกชื่อดัง แต้ว-ณฐพร ร่วมเป็นดีไซเนอร์ ส่งคอลเลกชัน “เวคกิ้งบี บาย แต้ว สวิม แอนด์ สเวท” รุก ตลาดซัมเมอร์ ที่สะท้อนผ่านเสื้อ ผ้าออกกำลังกายแนวใหม่ที่สามารถใช้ทำกิจกรรมทางนํ้าได้ด้วย เพื่อเพิ่มความหลากหลายในฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แอกทีฟ ถ่ายทอดออกมาในลายพิมพ์สุดพิเศษซึ่งออกแบบขึ้นใหม่สำหรับคอลเลกชันนี้โดยเฉพาะ
“เทรนด์สปอร์ตแวร์ในอดีตเน้นความเป็นฟังก์ชันนัล เน้นการใช้งานและมีเพียงยักษ์ใหญ่ทำตลาดอยู่ไม่กี่ราย แต่พอสปอร์ตแวร์มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ใหม่มีโอกาสแจ้งเกิดและเข้าทำตลาด”
ขณะที่แผนการตลาดในปีนี้จะเน้นในการสื่อสารแบรนด์ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการใช้ข้อความสื่อสารแบรนด์ในเชิงบวก เพื่อสร้างความมั่นใจในการสวมใส่ และมีพลังในการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าทางลบ ขณะที่ช่องทางออนไลน์จะเป็นช่องทางการในเอดูเคตกับลูกค้าให้เข้าใจในการออกกำลังกายและการสวมใส่ที่ถูกต้อง ภายใต้แนวคิดความหวานผสมฟังก์ชันสปอร์ตแวร์ ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม 25-40 ปี เดิมเน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงวัย 25-35 ปี ค่อนไปทางผู้ใหญ่เนื่อง จากเทรนด์ความนิยมในการออกกำลังกายที่มีเพิ่มสูงขึ้น
ด้านแผนการตลาดต่างประเทศในปีนี้ จะให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับดิสตริบิวเตอร์ในการสร้างฐานลูกค้า และการเติบโต ร่วมกันไป หลังจากที่ได้เข้าไปทำตลาด มาแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มอริเชียส บาห์เรน และอเมริกา ตั้งแต่ช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา พร้อมกับมองหาพาร์ตเนอร์ในกลุ่มประเทศใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการออกเทรดแฟชั่นในเทศกาลแฟชั่นวีกของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในฮ่องกง เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ไปยังแต่ละกลุ่มลูกค้า
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้า หมายการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง ในไทยและต่างประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี พร้อมกับวางเป้าหมายระยะยาวคือการขึ้นเป็น Top of mind สำหรับผู้หญิงที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3465 ระหว่างวันที่ 28 เมษายน-1 พฤษภาคม 2562
